xs
xsm
sm
md
lg

“เปอร์มาตามาส” จับมือ “กป.อพช.ใต้” รุมจวกคน กฟผ.ระดมนักเลงป่วนเวทีค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน นัดชุมนุมใหญ่หน้าทำเนียบ 17 ก.พ.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กำหนดการจัดเวทีค้านโครงการของ กฟผ.ที่ชายหาดใน อ.เทพา จ.สงขลา  จุดที่ตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาพรุ่งนี้
 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “เปอร์มาตามาส” ประสานมือ “กป.อพช.ใต้” แถลงด่วน! หลังข่าวสะพัดคน กฟผ.งัดวิชามาระดมนักเลงหัวโจกป่วนเวทีค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งที่สงขลา และกระบี่ พร้อมชวนร่วมเคลื่อนใหญ่หน้าทำเนียบ 17 ก.พ.นี้
 
บ่ายวันนี้ (11 ก.พ.) เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ (PERMATAMAS) นำโดย นายดิเรก เหมนคร ในฐานะผู้ประสานเครือข่ายเปอร์มาตามาส และคณะ ได้จัดแถลงข่าว และมีการอ่านแถลงการณ์แบบถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ไลฟ์ ที่ใช้ชื่อว่า “หยุดถ่านหินสงขลา” และมีการแชร์ไปยังเพจ “ความเคลื่อนไหวประชาชนภาคใต้” รวมถึงเพจภาคประชาชนต่างๆ ในภาคใต้ และเฟซบุ๊กบุคคลจำนวนหนึ่ง มีเนื้อหาสำคัญดังนี้
 
ด้วยในวันพรุ่งนี้คือ วันอาทิตย์ที่ 12 ก.พ.2560 ทางเครือข่าย PERMATAMAS และเครือข่ายภาคประชาชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดการชุมนุมใหญ่เพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา อ.เทพา จ.สงขลา และทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมมลพิษในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยนัดหมายรวมพลผู้มีสำนึกรักท้องถิ่น รักสิ่งแวดล้อม รักความเป็นธรรม และรักในการทะนุบำรุงวิถีชุมชน และศาสนาให้ยั่งยืน ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป
 
แต่กลับปรากฏว่า มีกระแสการดิ้นอย่างหนักของแกนนำจัดตั้งที่สนับสนุนถ่านหิน มีการระดมจัดจ้าง จัดหาวัยรุ่น และคนเกเร นักเลงในพื้นที่ ให้แทรกซึมเข้ามาในพื้นที่จัดกิจกรรม เพื่อเข้ามาป่วนกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ โดยหวังจะเข้ามาพูดจายั่วยุให้ฝ่ายชาวบ้านเกิดอารมณ์โกรธ เกิดการชกต่อย เพื่อจะสร้างเงื่อนไขให้เกิดภาพความรุนแรงของชาวบ้าน
 
รวมทั้งเป็นการเปิดช่องให้ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาควบคุมสถานการณ์ หรือยุติเวที
 
อีกทั้งยังมีการวางแผนปล่อยข่าว แล้วจะมีการพูดจาให้ร้ายกับกลุ่มคัดค้าน ด้วยการโวยวายเสียงดังว่า ตนไม่ได้รับเงินตามที่แกนนำรับปากไว้ว่าจะให้เงินหากมาชุมนุม เพื่อทำลายความชอบธรรมของการเคลื่อนไหวอันบริสุทธิ์ของชาวบ้าน ซึ่งการกระทำดังกล่าวนับเป็นวิชามารที่ต้องเรียกว่า “เลวมาก” เมื่อหลักวิชาการ และเหตุผลในการสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่สามารถสู้ได้ งานระดมมวลชนเพื่อสนับสนุนถ่านหินเทพาก็ไม่สามารถสู้ได้
 
ปัจจุบัน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แต่เพียงรวบรวมรายชื่อผู้ข้าร่วมกิจกรรมจากกิจกรรมต่างๆ เช่น จัดกิจกรรมวิ่ง การแสดงดนตรี การดูงาน การแจกของ หรือแม้แต่การจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ก็จะพาไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน แล้วนำมาเหมารวมว่า รายชื่อเหล่านั้นเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นวิชามารที่ตลกร้าย เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน
 
และครั้งนี้ยังมีวิชามารที่เลวมากขึ้นไปอีก ด้วยการปล่อยข่าวว่า ฝ่ายค้านแจกเงินให้คนมาค้าน ร่วมกับการจัดตั้งกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนในพื้นที่  ด้วยเจตนาจะทำลายขบวนการปกป้อง “ชุมชน ศาสนา และสิ่งแวดล้อม” ของคนในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยศรัทธาต่อการต่อสู้ตามวายิบ หรือหน้าที่ที่ควรจะเป็นของพี่น้องมุสลิม และศาสนิกในทุกศาสนา
 
ทางกลุ่ม PERMATAMAS จึงขอประณามการกระทำของกลุ่มแกนนำผู้มัวเมาไร้ศาสนา  และขอเชิญชวนพี่น้องผู้รักความเป็นธรรมจากทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากันให้มากๆ  เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม “การพัฒนาต้องตอบโจทย์สันติภาพและสิ่งแวดล้อม ประชาชนต้องร่วมคิดร่วมทำร่วมตัดสินใจ”  ณ สนามชั่วคราวในพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ชุมชนบางหลิง หมู่ที่ 4 ต.คลองประดู่ อ.เทพา จ.สงขลา
 
พร้อมร่วมรับฟังการปราศรัยจากวิทยากร รวมทั้งร่วมละหมาดฮายัต และร่วมอ่านแถลงการณ์การประกาศจุดยืนของภาคประชาชนที่จะขอให้ยุติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน และยุติการพัฒนาชายแดนใต้ในทิศทางของอุตสาหกรรมมลพิษ โดยพร้อมเพรียงกัน
 
Live สดผ่านเพจหยุดถ่านหินสงขลาของเครือข่ายเปอร์มาตามาส
 
พร้อมๆ กันนั้น นายสมบูรณ์ คำแหง เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ก็ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีนี้เช่นกันในหัวเรื่อง “ร่วมคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา” ความว่า
 
การที่รัฐบาลมีนโยบายที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ ถือเป็นเรื่องที่รัฐควรทำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเป็นแนวนโยบายที่ประชาชนควรสนับสนุนด้วยเช่นกัน และคิดว่าคงไม่มีประชาชนใดจะต้องออกมาคัดค้านแนวทางดังกล่าวนั้นได้ หากแต่การที่ กฟผ.มีความพยายามที่จะยัดเยียดให้ประชาชนไทยทั่วไปในภาคใต้ หรือทุกภาคของประเทศไทย จะต้องยอมรับการการผลิตไฟฟ้าที่ต้องใช้เชื่อเพลิงจากถ่านหิน เสมือนว่าโลกใบนี้ไม่มีทางเลือกอื่นใดที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ในอันที่จะผลิตพลังงานไฟฟ้าที่สะอาด ปลอดภัยที่สุดให้แก่ประชาชนได้ใช้
 
ด้วยเพียงเหตุผลที่ว่า “ถ่านหิน” คือสิ่งที่ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำสุด และอ้างว่ามีความสะอาด ปลอดภัยที่สุดแล้วนั้น ถือเป็นวาทกรรมล่อลวง และยังขัดแย้งทิศทางของนานาอารยประเทศทั่วโลกที่กำลังรณรงค์ให้มีการยกเลิกการใช้ฟอสซิลที่มีอยู่อย่างจำกัดบนโลกใบนี้ ดังที่ปรากฏในข้อตกลงการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องการลดภาวะก๊าซเรือนกระจก อันเป็นต้นเหตุของโลกร้อน หนึ่งในนั้นคือ ข้อตกลงที่ว่าด้วยการลดการใช้ฟอสซิลเพื่อการผลิตพลังงาน
 
และมากไปกว่านั้นคือ ถ่านหิน คือแหล่งเชื้อเพลิงที่มีภาวะมลพิษสะสมอันร้ายแรงในระหว่างการเผาไหม้ ดังปรากฏเห็นอย่างชัดเจนแล้วที่ชุมชนรายรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่ล่าสุด รัฐบาลจะต้องประกาศให้มีการอพยพชุมชนเหล่านั้นออกไป แล้วจะมีเหตุผลอื่นใดอีกที่จะดึงดันที่จะสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้
 
การกล่าวอ้างว่า “ถ่านหิน” สะอาด และมีต้นทุนต่ำ จึงไม่ใช่ความสมเหตุสมผลที่ กฟผ.จะนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินต่างๆ ได้อีกต่อไป ซึ่งล่าสุด คือ โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา แล้วจะมีเหตุผลใดอีกนอกจากผลประโยชน์ของกลุ่มทุนถ่านหินไทยที่ได้ไปกว้านซื้อแหล่งถ่านหินไว้ในหลายประเทศบนโลกใบนี้ จนไม่รู้จะนำไปจำหน่ายในที่แห่งใดอีก นอกจากประเทศไทย
 
การตื่นตัวของประชาชนตั้งแต่บ้านบ่อนอก หินกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ท่าศาลา และ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช อ.กันตัง จ.ตรัง อ.เทพา จ.สงขลา และ จ.กระบี่ ที่กล้าปฏิเสธการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ฝ่ายของ กฟผ.พยายามที่ทำการก่อสร้างเรื่อยมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ถูกคนในพื้นที่ขับไล่ ต่อต้าน คัดค้านจนไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ในที่สุด
 
การตื่นรู้ของคนกระบี่ และสงขลาล่าสุดนี้ ถือเป็นความหนักหนาสาหัส ด้วยเพราะ กฟผ.ทราบดีว่าหากไม่สามารถก่อสร้างในพื้นที่เหล่านี้ได้อีก  ก็คงจะไม่มีพื้นที่ใดให้เชื้อเพลิงชนิดถ่านหินได้เผาผลาญชีวิตของคนในไทยทั้งประเทศอีกต่อไปแล้ว  
 
เราจึงขอสนับสนุน และขอเชิญชวนพี่น้องผู้รักธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และผู้ที่รักความถูกต้องทั้งหลายให้ออกมาสนับสนุนการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงถ่านหินอย่างพร้อมเพียงกันในวันที่ 12 ก.พ.นี้ ที่ชายหาด อ.เทพา จ.สงขลา และในวันที่ 13 ก.พ.นี้ ที่ จ.กระบี่ และร่วมกันอย่างพร้อมหน้าทั่วประเทศในวันที่ 17 ก.พ.2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร
 
จึงแถลงการณ์มาเพื่อทำความเข้าใจต่อประชาชนทั่วไปด้วยเหตุผลดังกล่าว และขอเชิญชวนร่วมกันหยุดถ่านหินประเทศไทย และร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลกลับใจเปลี่ยนแนวคิดให้ กฟผ.หันมาสร้างความมั่นคงด้านพลังงานด้วยแหล่งที่มาที่สะอาด ปลอดภัยอย่างแท้จริง
 

กำลังโหลดความคิดเห็น