xs
xsm
sm
md
lg

ทอมสุดแสบ! อ้างเป็นทหาร นปพ.เด็ก “บิ๊กต๊อก” หลอกเงินร้านเบเกอรี่กลางเมืองหาดใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สองผัวเมียเจ้าของร้านเบเกอรี่ในเมืองหาดใหญ่ เข้าแจ้งความถูกสาวทอมสุดแสบอ้างตัวเป็นทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) แถมเป็นคนสนิท “พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา” องคมนตรี ก่อนหลอกยืมเงินจำนวนหนึ่ง และยังมีไลน์ปลอมของ พล.อ.ไพบูลย์ ติดต่อมาการันตี สุดท้ายหนีหายเงียบทั้ง 2 คน

วันนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายตรีมีซีร์ มายา อายุ 28 ปี พร้อมด้วย น.ส.เมดินา อดุลรัตน์ อายุ 27 ปี ภรรยา เจ้าของกิจการร้านเบเกอรี่ ย่านสถานีรถไฟหาดใหญ่ ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.สุรพงศ์ กิตติธิรางกูร ผู้กำกับการสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังถูกหญิงสาวอ้างตัวเป็นทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และเป็นคนสนิทของ “พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา” องคมนตรี หลอกยืมเงินไป 2,500 บาท แถมยังมีการใช้ไลน์ปลอมของ พล.อ.ไพบูลย์ ติดต่อมาการันตี และจะขอยืมเงินเพิ่มอีก 3,000 บาท พร้อมกับนำหลักฐานเกี่ยวกับการติดต่อพูดคุยกันทางไลน์ปลอมของ พล.อ.ไพบูลย์ มาให้ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานดำเนินคดี
 

 
นายตรีมีซีร์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า น.ส.อรุณวรรณ กวดแก้ว หรือขิม ลักษณะเป็นสาวทอม ซึ่งอ้างตัวเป็นทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ อ.บันนังสตาร์ จ.ยะลา เนื่องจากเข้ามาใช้บริการในร้าน และมีการพูดคุยกันถูกคอ เพราะดูท่าทางน่าเชื่อถือ และยังเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังว่าเป็นคนสนิทของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ซึ่ง น.ส.อรุณวรรณ เรียกชื่อเล่นว่า “บิ๊กต๊อก” เนื่องจากพ่อของ น.ส.อรุณวรรณ เป็นคนขับรถให้แก่ พล.อ.ไพบูลย์ แต่พ่อได้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ใน อ.บันนังสตาร์ เมื่อปีที่แล้ว ทาง “บิ๊กต๊อก” จึงได้ส่ง น.ส.อรุณวรรณ ลงมาทำงานแทนพ่อ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.อรุณวรรณ ได้กลับมาที่ร้านอีกครั้ง และบอกว่าจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน จ.ยะลา ก่อนทักทายกันตามปกติ แต่คราวนี้ได้ขอยืมเงิน 1,000 บาท โดยอ้างว่ากระเป๋าตังค์หาย และจะเปิดโรงแรมที่หาดใหญ่จึงได้ให้ไป อีกสักพักก็โทร.มาอีกบอกว่า ขอตังค์เพิ่มอีก 200-300 บาท เพื่อจะซื้อของไปฝาก “บิ๊กต๊อก” ตนเห็นว่า พล.อ.ไพบูลย์ เป็นถึงองคมนตรี ซื้อขอฝากราคาเท่านี้คงไม่เหมาะ จึงโอนไปให้อีก 1,500 บาท และ น.ส.อรุณวรรณ บอกด้วยว่า วันที่ 4 ก.พ.60 จะเอามาคืนให้ที่ร้าน ก่อนที่จะเดินทางกลับขึ้นกรุงเทพฯ แต่เมื่อรอแล้วรออีกก็ยังไม่มา
 

 
และเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีไลน์ของ พล.อ.ไพบูลย์ ติดต่อมาหาตน ซึ่งมีทั้งภาพเดี่ยว และภาพที่ถ่ายคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ และเพื่อนทหารอีกคน ซึ่งตนตกใจมาก และเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะบุคคลระดับนี้ไม่น่าจะต้องลงมาจัดการเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง แต่ได้ทักทายกลับไป ซึ่งในไลน์ของบุคคลที่อ้างว่าเป็น พล.อ.ไพบูลย์ ได้พูดคุยประมาณว่า ขอบคุณที่ช่วยเหลือเรื่องเงินให้แก่ขิม (น.ส.อรุณวรรณ) ช่วงที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน จ.ยะลา ที่ทักไลน์มากลัวว่าจะไม่เชื่อเรื่องที่ขิมบอก พร้อมกับขอเบอร์บัญชี เพื่อที่จะโอนเงินคืนให้ หลังจากที่เสร็จธุระในวัง
 

 
นายตรีมีซีร์ บอกว่า แต่ที่มาเอะใจ และเชื่อว่าน่าจะเป็นไลน์ปลอม และถูกหลอกคือ ไลน์ปลอมของ พล.อ.ไพบูลย์ บอกว่า ให้ตนโอนเงินไปให้ขิมอีก 3,000 บาท เป็นค่าเดินทางกลับ ก่อนที่จะสิ้นสุดการติดต่อทางไลน์ ตนจึงพยายามทักไลน์กลับไปอีกครั้ง รวมทั้งติดต่อโทรศัพท์ไปหาขิม ปรากฏว่า ทั้งไลน์ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ของทั้ง 2 คน ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย และจนถึงบัดนี้เงินที่ยืมไปก็ไม่ได้คืน จึงรู้ว่าน่าจะถูกหลอก และตัดสินใจนำเข้าแจ้งความต่อตำรวจไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไลน์ และคนที่ชื่อขิม เพื่อไม่ให้ไปหลอกใครอีก

ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ กิตติธิรางกูร ผู้กำกับการสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ทั้งหมด ทั้งไลน์ที่อ้างว่าเป็น พล.อ.ไพบูลย์ และเบอร์โทรศัพท์ของคนที่ชื่อขิม ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงิน
 

กำลังโหลดความคิดเห็น