ตรัง - สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตตรัง วอนขอให้ “น้องฝน” สาววัย 19 ปี ที่หยุดเรียนไปในเทอม 1 เพราะเจอปัญหาน้ำท่วมขังมานาน จนครอบครัวเดือดร้อนไม่มีเงินส่งเสีย ให้เร่งติดต่อกลับมาเรียนใหม่ได้อีกครั้ง ยืนยันทางสถาบันฯ พร้อมหาทางช่วยเหลือ
วันนี้ (3 ก.พ.) จากกรณีที่ น.ส.พรรณา หนูนวน หรือน้องฝน อายุ 19 ปี ซึ่งศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 สาขาศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตตรัง ต้องหยุดเรียนกะทันหัน เนื่องจากทางครอบครัวซึ่งมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่อง จนทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักใน จ.ตรัง ช่วงเดือนธันวาคม 2559 ถึงเดือนมกราคม 2560 อีกทั้งครอบครัวยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หนองตรุด ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำตรัง และจนถึงขณะนี้ บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย รวมถึงพื้นที่สวนยางก็ยังถูกน้ำท่วมขัง จนไม่มีรายได้เพียงพอเพื่อที่จะไปเรียนหนังสือได้ตามปกตินั้น
ล่าสุด ที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตตรัง ผศ.สิบเอกสุทัศน์ สีแก้วเขียว ผู้ช่วยอธิการบดีประจำวิทยาเขตตรัง รักษาราชการแทนรองอธิการบดี สถาบันการพลศึกษา ประจำวิทยาเขตตรัง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นว่า น.ส.พรรณา หรือน้องฝน ช่วงเรียนอยู่เทอม 1 แรกๆ ก็มีความตั้งใจเรียนดี แต่ก่อนจะมีการสอบช่วงปลายเทอมที่ 1 ซึ่งกำหนดไว้ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.59 ถึง 2 ม.ค.60 ปรากฏว่า น้องฝน ได้หายไปประมาณ 1 เดือน โดยทางสถาบัน รวมถึงเพื่อนๆ ก็พยายามติดต่อสอบถามถึงสาเหตุปัญหาที่อาจหาทางแก้ไขได้ แต่กลับไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เลย ทำให้ผลการสอบของ น้องฝน ออกมาไม่ดี เนื่องจากขาดสอบ และได้เกรดเฉลี่ยแค่ 0.31 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์
จากนั้นก็ได้มีการออกหนังสือแจ้งการพ้นสภาพเป็นนักศึกษา เนื่องจากไม่ชำระค่าลงทะเบียนเรียนในเทอมที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบการพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาของทางสถาบัน ที่กำหนดไว้ใน 2 กรณีคือ 1.เกรดเฉลี่ยต่อภาคเรียนไม่ถึง 1.5 และ 2.ไม่จ่ายค่าเทอม สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น น้องฝน ได้รับการยกเว้นค่าเทอมประมาณ 6,000-7,000 บาทต่อภาคเรียน เนื่องจากเป็นนักกีฬายูโดของสถาบัน และได้รับสิทธิพิเศษอยู่หอพักภายในสถาบัน ในราคาเทอมละ 500 บาท รวมทั้งยังสามารถกู้เงิน กยศ.ได้เดือนละ 2,200 บาท เนื่องจากทางสถาบันพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือดูแลนักศึกษาที่มีความขาดแคลน
ทั้งนี้ เพราะไม่เพียงแต่ น้องฝน เท่านั้น ยังมีนักศึกษาคนอื่นๆ อีกประมาณ 50% ของสถาบันที่มีสภาพไม่ต่างกัน เพียงแต่อย่าขาดการติดต่อกัน หรือมีปัญหาอะไรก็ขอให้มาปรึกษาพูดคุยได้ตลอด เนื่องจากที่สถาบันแห่งนี้ ครูอาจารย์ทุกคนเปรียบเสมือนกับพ่อแม่ของศิษย์ และพร้อมรับได้ทุกสภาพปัญหาอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาด้วยก็อยากให้ น้องฝน กลับมาเรียนตามปกติ อะไรที่ช่วยได้ก็ตั้งใจจะช่วย และไม่ได้นิ่งนอนใจแน่นอน
ด้าน น.ส.วิฬาลักษณ์ ฟองมณี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 และยังเป็นหัวหน้าห้องด้วย กล่าวว่า แม้มีโอกาสได้เรียนร่วมชั้นกับ น้องฝน เพียงแค่เทอมเดียว ก็รู้สึกรักและเป็นห่วง ตน และเพื่อนๆ ก็มักจะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันอยู่เสมอ แต่กลับไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มาเรียน ไม่มาสอบ และหายไป โดยไม่มีการติดต่อเพื่อนๆ คนใดเลย ซึ่งจากที่เรียนห้องเดียวกันพบว่า น้องฝน ก็เป็นคนตั้งใจเรียน และเรียนดี แต่จู่ๆ ก็หายไป ก็น่าเสียดาย ตนจึงอยากให้เพื่อนกลับมาเรียนด้วยกันเหมือนเดิม ปัญหาทุกคนมี และตนก็มี แต่เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขได้
