ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต แถลงข่าวโต้ข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูงเรียกรับเงินจากโรงแรมเถื่อนหลายล้านบาท ยืนยันตรวจสอบแล้วไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมเดินหน้านำโรงแรมเถื่อนเข้าสู่ระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีมีการนำเสนอข้อมูลผ่านคอลัมน์ของหนังสือพิมพ์ส่วนกลางฉบับหนึ่ง ว่า นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า มีข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูงของจังหวัดภูเก็ต เรียกรับเงินจากโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตแห่งละหลายล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนเป็นจำนวนมากนั้น เป็นสิ่งที่คลางแคลงใจว่าข้าราชการระดับสูงคือใคร เพราะไม่ได้ระบุชัดเจน จึงได้ตรวจสอบเรื่องนี้ในทันที โดยการเรียกผู้บริหารระดับสูงในจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ระดับรองผู้ว่าฯ และนายอำเภอมาพูดคุยข่าวดังกล่าวตามที่นายสมหมาย ภาษี ออกมาระบุ ทุกฝ่ายไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ และไม่มีใครเรียกเก็บเงินจากโรงแรมผิดกฎหมาย
“ผมขอยืนยันว่าไม่มีข้าราชการระดับสูงในภูเก็ตเรียกเก็บเงินจากโรงแรมผิดกฎหมาย ผม และรองผู้ว่าฯ ทั้ง 3 ท่าน เพิ่งย้ายมาภูเก็ตเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่รู้จักเจ้าของโรงแรมและยังไปรู้ว่าโรงแรมผิดกฎหมายมีอยู่ที่ไหนบ้าง และหากใครมีข้อมูลเบาะแสว่าข้าราชการในภูเก็ตทุกระดับเรียกเก็บเงินจากโรงแรม หรือสถานประกอบการอื่นๆ ก็สามารถแจ้งมายังผมได้เลย จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด” นายโชคชัย กล่าวและว่า
จังหวัดภูเก็ต มีนโยบายแก้ไขปัญหาการนำสถานที่พักมาประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ตามความในกฎกระทรวง กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจความถูกต้องของคณะทำงานระดับอำเภอ และจังหวัดยังไม่ได้ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้แก่ผู้ยื่นคำขอแต่อย่างใด ขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการมายื่นคำขอมากกว่า 500 ราย หากจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้หนึ่งผู้ใดสร้างเงื่อนไขเพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ น่าจะเป็นไปไม่ได้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ออกใบอนุญาตประกอบการโรงแรมให้แก่โรงแรมใด ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการระดับอำเภอ ที่จะต้องตรวจสอบองค์ประกอบต่างๆ ของโรงแรม ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ทางหนีไฟ ความปลอดภัย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.สาธารณะสุข เป็นต้น ที่จะเสนอมายังจังหวัดในการพิจารณาออกใบอนุญาตต่อไป
ส่วนโรงแรมที่ยังไม่ได้ยื่นขอเข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายกว่า 800 กว่าแห่งนั้น ทางจังหวัดจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยการเข้าไปตรวจสอบโรงแรมหลังจากหมดเวลาที่เปิดโอกาสแล้ว
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีมีการนำเสนอข้อมูลผ่านคอลัมน์ของหนังสือพิมพ์ส่วนกลางฉบับหนึ่ง ว่า นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า มีข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูงของจังหวัดภูเก็ต เรียกรับเงินจากโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตแห่งละหลายล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนเป็นจำนวนมากนั้น เป็นสิ่งที่คลางแคลงใจว่าข้าราชการระดับสูงคือใคร เพราะไม่ได้ระบุชัดเจน จึงได้ตรวจสอบเรื่องนี้ในทันที โดยการเรียกผู้บริหารระดับสูงในจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ระดับรองผู้ว่าฯ และนายอำเภอมาพูดคุยข่าวดังกล่าวตามที่นายสมหมาย ภาษี ออกมาระบุ ทุกฝ่ายไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ และไม่มีใครเรียกเก็บเงินจากโรงแรมผิดกฎหมาย
“ผมขอยืนยันว่าไม่มีข้าราชการระดับสูงในภูเก็ตเรียกเก็บเงินจากโรงแรมผิดกฎหมาย ผม และรองผู้ว่าฯ ทั้ง 3 ท่าน เพิ่งย้ายมาภูเก็ตเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่รู้จักเจ้าของโรงแรมและยังไปรู้ว่าโรงแรมผิดกฎหมายมีอยู่ที่ไหนบ้าง และหากใครมีข้อมูลเบาะแสว่าข้าราชการในภูเก็ตทุกระดับเรียกเก็บเงินจากโรงแรม หรือสถานประกอบการอื่นๆ ก็สามารถแจ้งมายังผมได้เลย จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด” นายโชคชัย กล่าวและว่า
จังหวัดภูเก็ต มีนโยบายแก้ไขปัญหาการนำสถานที่พักมาประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ตามความในกฎกระทรวง กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจความถูกต้องของคณะทำงานระดับอำเภอ และจังหวัดยังไม่ได้ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้แก่ผู้ยื่นคำขอแต่อย่างใด ขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการมายื่นคำขอมากกว่า 500 ราย หากจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้หนึ่งผู้ใดสร้างเงื่อนไขเพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ น่าจะเป็นไปไม่ได้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ออกใบอนุญาตประกอบการโรงแรมให้แก่โรงแรมใด ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการระดับอำเภอ ที่จะต้องตรวจสอบองค์ประกอบต่างๆ ของโรงแรม ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ทางหนีไฟ ความปลอดภัย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.สาธารณะสุข เป็นต้น ที่จะเสนอมายังจังหวัดในการพิจารณาออกใบอนุญาตต่อไป
ส่วนโรงแรมที่ยังไม่ได้ยื่นขอเข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายกว่า 800 กว่าแห่งนั้น ทางจังหวัดจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยการเข้าไปตรวจสอบโรงแรมหลังจากหมดเวลาที่เปิดโอกาสแล้ว