สตูล - ชาวเลหลีเป๊ะยังไม่รู้ชะตากรรมในคดีเรื่องการบุกรุกที่ดิน ที่ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินคดีในชั้นศาลถึง 2 คดี ยอมรับเป็นเรื่องยากในการจัดเก็บเอกสารเพื่อเป็นหลักฐาน มีเพียงสุสานบรรพบุรุษ บ่อน้ำขุดเอง และหลักฐานการเสด็จมาเยี่ยมของสมเด็จย่าที่ยืนยันถิ่นกำเนิด
วันนี้ (2 ก.พ.) ปัญหาที่อยู่อาศัยที่ทำกินของชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ จนเป็นคดีฟ้องร้องบุกรุกที่ทำกิน ระหว่างนายทุนกับชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล มีชาวเลตกเป็นจำเลย และยังคงอยู่ระหว่างดำเนินคดีในชั้นศาลถึง 2 คดี ซึ่งเป็นคดีแพ่งในเรื่องขับไล่ละเมิด บุกรุก เรียกค่าเสียหาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการไกล่เกลี่ย และการสืบพยาน
แม้ก่อนหน้านี้ในคดีอาญาการดำเนินคดีในชั้นศาลได้ยกฟ้องในคดีบุกรุกที่ดิน ยังความดีใจให้แก่กลุ่มพี่น้องชาวเลที่พยายามเรียกร้องที่อยู่อาศัย และที่ทำกินมาโดยตลอด แม้ชาวเลหลายคนจะยอมรับว่าเป็นเรื่องยากลำบากในการจัดเก็บเอกสารเพื่อเป็นหลักฐานยื่นในชั้นศาล ได้แต่หวังว่าจะได้รับความเห็นใจ และเข้าใจว่ากลุ่มชาวเลได้อยู่อาศัยในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะมาอย่างยาวนาน โดยมีหลักฐานที่สุสานบรรพบุรุษ บ่อน้ำที่ขุดใช้กันเองภายในหมู่บ้าน และหลักฐานการเสด็จมาเยี่ยมของสมเด็จย่า เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 10 ยังทรงพระเยาว์
การต่อสู้บนความไม่เข้าใจในกระบวนการ และขั้นตอนทางกฎหมายของชาวเลบนเกาะหล๊เป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล แม้จะมีความย่อท้อโดยชาวเลหลายคนเชื่อว่าไม่มีทางเลือกไปมากกว่านี้ ทำให้ต้องเดินหน้าต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิดที่บรรพบุรุษได้อาศัยอยู่มาอย่างยาวนาน แม้วันนี้เกาะหลีเป๊ะได้เป็นเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว และมีมูลค่าที่ดินจำนวนมหาศาลที่นายทุนเข้ามาครอบครองแล้วจำนวนมาก