xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มเบตงเลิกเป็นลูกจ้างหันเพาะ “เห็ดถั่งเช่า” ขาย สร้างรายได้นับแสนบาทต่อเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - หนุ่มเบตง วัย 45 ปี เลิกเป็นลูกจ้าง หันรวมกลุ่มบ้านเห็ดเบตง ร่วมกันเพาะ “เห็ดถั่งเช่า” ขาย สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

วันนี้ (2 ก.พ.) นายสมชาย เชี่ยวชาญศิลป์ อายุ 45 ปี บัณฑิตสาขาวิชาโรคพืช คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในมนุษย์ออฟฟิศแห่งยุคที่ลาออกจากตำแหน่งพนักงานส่งเสริมการขายเคมีเกษตร หลังจากจบปริญญาตรี นายสมชาย ก็ทำงานไม่ต่างจากเพื่อนๆ ร่วมคณะอีกหลายคน นั่นคือ เป็นพนักงานส่งเสริมการขายเคมีเกษตรในบริษัทเอกชน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่างชาติ หรือบริษัทคนไทย แต่สำหรับ นายสมชาย หลังจากเรียนจบ และทำงานได้เพียง 8 ปี ก็ตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่ อ.เบตง จ.ยะลา
 

 
นายสมชาย ได้หันมาสนใจเรื่องเห็ดถั่งเช่า โดยบอกว่า เริ่มต้นมาจากการที่มองว่า กระแสสุขภาพขณะนี้มาแรง ก็เข้าไปค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่าควรจะทำตัวแบบไหนดี ดูไปดูมาก็มาจบที่เห็ดถั่งเช่า ซึ่งที่ผ่านมา มีงานวิจัยรองรับค่อนข้างมาก และชัดเจน จากนั้นจึงไปซื้อน้ำเชื้อชุดแรก นำมาขยายพันธุ์เอง ทั้งนี้ ก็ได้มีความรู้ด้านโรคพืชอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้จึงไม่มีปัญหา ประกอบกับด้วยภูมิประเทศของ อ.เบตง ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง จึงทำให้ อ.เบตง มีอากาศดี เหมาะที่จะมาเริ่มต้นการเพาะเห็ดถั่งเช่า

ซึ่งเริ่มต้นโดยการนำน้ำเชื้อถั่งเช่าชุดแรกมาขยายพันธุ์ และเก็บเชื้อ โดยในระยะ 3 เดือน จะเก็บได้ 1 รุ่น นายสมชาย ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ในส่วนของเชื้อเห็ดถั่งเช่านั่น ถั่งเช่ามันเป็นเห็ด เห็ดตัวนี้จริงๆ แล้วเกิดจากตัวหนอนที่มีอยู่มากแถวทิเบต หรือที่ภูฏาน คือ เริ่มต้นหนอนตัวนี้ ช่วงหนาวมันจะมีการฟักตัว ช่วงฟักตัวนี้เองที่จะมีเชื้อราชนิดหนึ่งเข้าไปโจมตีตัวหนอน ด้วยการไปเจริญเติบโต และดูดสารอาหารจากตัวหนอน จนเชื้อราเดินเต็ม เมื่ออากาศอุ่นขึ้น เชื้อราตัวนี้ที่ว่าก็เริ่มแทงดอกออกเป็นเห็ดขึ้นมาที่เราเรียกว่า “เห็ดถั่งเช่า” นั่นเอง
 

 
นายสมชาย บอกอีกว่า เชื้อราที่ว่านี้มีหลายสายพันธุ์ ถ้าเป็นของดีจะหายาก กิโลกรัมละเป็นล้านบาท ที่มีการซื้อขายกันที่เมืองจีน แต่ที่ นายสมชาย ทำอยู่นี้ก็เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียง ที่มีสารออกฤทธิ์คล้ายกัน ซึ่งการทำในห้องปฏิบัติการก็สามารถควบคุมเรื่องธาตุอาหารให้ได้ผลที่ดีกว่า

สำหรับการเลี้ยงเชื้อราในห้องปฏิบัติการ จะเลี้ยงบนอาหารแข็ง (ที่ทำขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้หนอนแบบในธรรมชาติ) เมื่อเส้นใยเดินเต็ม แล้วแทงเป็นดอกได้ดอกออกมา ก็นำไปอบแห้ง ทำเป็นชาถั่งเช่า ซึ่งจริงๆ แล้วนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น เครื่องสำอาง หรือจริงๆ ก็มีโครงการนำไปผสมในอาหารไก่ เพื่อลดการใช้สารปฏิชีวนะไก่ เป็นต้น
 

 
“ในส่วนนี้เราจะรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน กลุ่มบ้านเห็ดเบตง มีสมาชิก 17 คน ซึ่งกลุ่มเราจัดเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง จนได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 2 กลุ่มของทั้ง จ.ยะลา ทางภาครัฐ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา และสำนักงานเกษตรอำเภอเบตง ได้เข้ามาส่งเสริมในเรื่ององค์ความรู้ใหม่ๆ และการบรรจุภัณฑ์ โดยตอนนี้เราทำเป็นในรูปแบบของชา และมีขายเป็นแคปซูลอาหารเสริม และทำเป็นชา เราใช้เห็ดราว 3-4 เส้นต่อซอง ขายซองละ 50 บาท บรรจุกล่องละ 10 ซอง ราคา 500 บาท ส่วนแคปซูลใน 1 กระปุก มี 60 แคปซูล ราคา 1,500 บาท ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเราจะมีสินค้าทำนองนี้ขายลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะมาจากสิงคโปร์ หรือมาเลเซีย ที่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เข้ามาเที่ยวที่ อ.เบตง เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาล และวันหยุดสุดสัปดาห์ หากเราทำได้ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อไปเราจะเหมือนเกาหลี หรือจีน ที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยว และต้องซื้อโสม หรือบัวหิมะกลับไป” นายสมชาย กล่าว
 

 
สำหรับกำลังการผลิตต่อเดือนในช่วงนี้ นายชาย บอกว่า ทางกลุ่มสามารถผลิตดอกแห้งได้ราว 1.5 กิโลกรัม และแบบผงอีกราว 10 กิโลกรัม ซึ่งหากขายหมดจะมียอดรายได้ราว 5 แสนบาทต่อเดือน สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อนายสมชาย ได้ที่ 126 ถนนประชาธิปัตย์ อ.เบตง จ.ยะลา 95110 โทร.0-7323-0132 หรือ 08-9776-4107 หรือเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กนายสมชาย
 

กำลังโหลดความคิดเห็น