ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ยื่นหนังสือผ่านจังหวัดภูเก็ต ไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง หลังผู้ว่าฯ เอาจริงให้เปิดปิดตามกฎหมายกำหนดได้แค่ตีหนึ่งเท่านั้น เวลาปิดเหมาะสมสุดน่าจะอยู่ที่เวลา 05.00 น. หวังโกยเงินจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พร้อมใช้บริการ โอดเดือดร้อนหนักคืนเดียวทำรายได้สูญกว่า 100 ล้านบาท แถมมีผู้เดือดร้อนตามมาอีกหลายแสนคน เผยแต่ละปีสถานบันเทิงป่าตองทำรายได้เข้าภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท วอนหน่วยงานรัฐเห็นใจผู้ประกอบการที่ได้ลงทุนไปมหาศาลแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการสถานบริการในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นำโดย นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง พร้อมด้วย นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น นายทิติ พัฒนจินดา และตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตองกว่า 20 คน เดินทางมายืนหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องขอให้พิจารณาขยายเวลาปิดสถานบันเทิงหาดป่าตอง ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการสถานบริการที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายการปิดสถานบริการในเวลา 24.00 น. และสถานบันเทิงในเวลา 01.00 น.โดยมี นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว
นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงตามมาตรา 3 (4) ในเขตปริมณฑลปิดบริการในเวลา 01.00 น. โดยมีผลบังคับเป็นกฎกระทรวงเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2547 นั้น ทำให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผู้ที่มีธุรกิจต่อเนื่อง หรือเกี่ยวข้องต่อสถานบันเทิง แรงงาน ในสถานบันเทิงในตำบลป่าตอง ได้รับความเดือดร้อนจากการจำกัดเวลาในการดำเนินธุรกิจ ทางผู้ประกอบการจึงยื่นหนังสือ โดยมีเนื้อหาขอให้มีการกำหนดพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง ให้มีการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงจากเวลา 01.00 น.เป็นเวลา 04.00 น.และในขณะนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายให้สถานบันเทิงต่างๆ ในซอยบางลา และย่านป่าตองเปิดปิดตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ทำให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิง และที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวเพิ่งออกมาเที่ยวสถานบริการได้เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะโดยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจะออกมาเที่ยวประมาณเกือบเที่ยงคืน การปิดในเวลา 01.00 นั้น จะทำให้ผู้ประกอบการขาดรายได้ไม่ต่ำกว่าคืนละ 100 ล้านบาท
ผู้ประกอบการจึงอยากจะขอวิงวอน และขอความกรุณาจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยพิจารณาผ่อนผันให้ขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงในพื้นที่หาดป่าตองให้เหมาะสมต่อพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในหาดป่าตองซึ่งส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเรื่องนี้ทางชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตองได้มีการเรียกร้องมาตลอด และเข้าใจว่าการแก้กฎหมายนั้นทำได้ลำบาก จึงอยากเสนอแนะไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ทางผู้ว่าฯใช้ดุลพินิจในการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงให้เหมาะสมต่อบริบทของแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่กำหนดกฎเกณฑ์เหมือนกันทั่วทั้งประเทศเหมือนในปัจจุบัน
“ตั้งแต่ผมมาเป็นประธานชมรมฯ ก็ได้มีการยื่นหนังสือให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขปัญหาในเรื่องของการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งก็เข้าใจว่าทำลำบาก แต่ผู้ประกอบการเดือดร้อนจริงๆ ถ้าจะให้ปิดในเวลาตีหนึ่ง ผู้ประกอบการจึงฝากความหวังไว้กับผู้ว่าฯ ที่จะเสนอปัญหาไปยังรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป” นายวีรวิชญ์ กล่าวในที่สุด
ด้าน นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวว่า ผู้ประกอบการในหาดป่าตองพยายามที่จะใช้พื้นที่เล็กๆ ในการพัฒนาการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ ด้วยการพัฒนาทั้งเรื่องของการบริการ บุคลากรให้สถานบันเทิงของภูเก็ตเทียบเท่านานาชาติ มีการลงทุนเป็นเม็ดเงินมหาศาลเพื่อนำรายได้เข้าประเทศ แต่กฎหมายสถานบันเทิงที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันไม่ทันสมัย ไม่สามารถที่จะแข่งขันกับนานาชาติได้ ยังเป็นกฎหมายที่ล่าหลังไม่ได้มีการปรับปรุงมานานมากแล้ว อยากจะให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย และเข้ากับบริบทของแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่เหมารวมเหมือนกันทั่วประเทศเหมือนในปัจจุบัน และในหลายเรื่องที่เกี่ยวกับสถานบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาเปิดปิด ภาษี เป็นต้น เพราะผู้ประกอบการได้มีการลงทุนไปจำนวนมากแล้ว รัฐน่าจะเข้ามาสนับสนุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย เป็นต้น
นายปรีชาวุฒิ กล่าวเพิ่มว่า การที่จังหวัดภูเก็ต เข้ามาเข้มงวดให้สถานบันเทิงปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนดในเวลา 01.00 น.นั้น จะทำให้ภูเก็ตสูญเสียรายได้มหาศาลจากธุรกิจสถานบันเทิง เฉพาะในพื้นที่ซอยบางลา ระยะทางประมาณ 625 เมตร ปิดเป็นเวลา 1 วัน รายได้สูญไปไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท การปิดในเวลา 05.00 น.จะสร้างรายได้คืนละไม่ต่ำกว่า 100-150 ล้านบาท ปีละไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท สร้างรายได้ให้รัฐในรูปแบบของภาษีต่างๆ ไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้เกือบทั้งหมดมาจากนักท่องเที่ยวชาวชาติที่นำเงินมาใช้จ่ายในบ้านเราทั้งนั้น นักท่องเที่ยวพร้อมจะใช้เงิน แต่ไม่สามารถใช้เงินในสถานบันเทิงได้ เมื่อสถานบันเทิงปิดตีหนึ่ง แต่นักท่องเที่ยวยังอยากที่จะดื่มอีกก็ต้องไปนั่งดื่มตามชายหาด ทำเกิดหลายๆปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็นความสกปรกของชายหาดที่เกิดจากขวดเบียร์ ปัญหาอาชญากรรม กำลังเจ้าหน้าที่ที่ต้องไปดูแลตลอดชายหาด 3 กิโลเมตร เป็นต้น และที่สำคัญกระทบถึงคนอีกหลายแสนคนที่อยู่วงจรของธุรกิจสถานบันเทิง เรียกว่าเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวกันเลยทีเดียว จึงอยากจะให้รัฐบาลพิจารณาในจุดนี้ด้วย
สำหรับเวลาที่เหมาะสมของเวลาเปิดปิดที่ผู้ประกอบการคิดว่าเหมาะสมน่าจะอยู่ที่ เวลาประมาณ 05.00 น. และครอบคลุมพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือ ในซอยบางลา และรัศมีรอบๆ ประมาณ 500 ตร.ม. หรือประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นย่านที่นักท่องเที่ยวมาใช้บริการเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ คนไทยมีน้อยมากที่มาใช้สถานบันเทิงหาดป่าตอง
ส่วนกรณีที่มีการออกมาระบุในโซเชียล ว่า สถานบันเทิงหาดป่าตองมีการจ่ายส่วยให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น นายปรีชาวุฒิ กล่าวว่า เชื่อว่าผีมีจริง แต่ไม่เคยมีใครเห็นผี เรื่องส่วยสถานบันเทิงที่ป่าตองไม่ได้เดินเก็บเหมือนสมัยก่อน แต่จะมีในลักษณะของภาคเอกชนให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในรูปแบบต่างๆ โดยผู้ประกอบการสมยอมมากกว่า ไม่มีหลักฐานว่ามีการเก็บส่วย แต่ก็ยังมีอยู่บางคน บางกลุ่มที่อยากจะจ่าย และเจ้าหน้าที่รัฐก็ใช่ว่าจะต้องเก็บส่วยทุกคน ตำรวจที่เป็นคนดีก็มี
อย่างไรก็ตาม นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ประกอบการสถานบันเทิงจังหวัดภูเก็ต ที่มีความเข้าใจว่า จังหวัดจำเป็นจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในสถานบริการ และสถานบันเทิง ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้เหมือนกันทั่วประเทศ สำหรับข้อเรียกร้องของชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง จะนำเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อรับทราบ และหาแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ทางจังหวัดจะเป็นตัวกลางในการที่จะนำเสนอปัญหาดังกล่าวต่อไปยังรัฐบาล และ คสช. เพื่อหามาตรการในการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่อไป และขอความร่วมมือผู้ประกอบการสถานบริการสถานบันเทิงได้ช่วยสร้างความเข้าใจต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกี่ยวกับรายละเอียดข้อกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีพื้นที่พิเศษและมีบริบทที่แตกต่างกับพื้นที่อื่น ๆ และมีความละเอียดอ่อน ดังนั้นการจะดำเนินการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงในเรื่องใด ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและด้วยความรอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและนักท่องเที่ยว ตลอดจนเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดภูเก็ต
ส่วนในช่วงนี้สถานบันเทิงต้องเปิดปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือไม่นั้นจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ตนไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้ เพราะตนเป็นเพียงผู้ปฏิบัติเท่านั้น นโยบายให้ขึ้นอยู่กับผู้บริหารเป็นคนตัดสินใจ