xs
xsm
sm
md
lg

สุดทน! ชาวเมืองคอนบุกประชิดตัว รมว.ทรัพย์ฯ จี้แก้น้ำเน่าบ่อขยะเทศบาล ผู้ว่าฯ โบ้ยเข้าใจผิดเหตุไม่แจ้งความ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - หน่วยงานระดับจังหวัดยังเงียบกริบ ไร้วี่แววหาทางแก้ไขปัญหาน้ำเน่าทะลักจากบ่อขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ด้านตัวแทนสุดทนบุกประชิดตัว รมว.ทรัพย์ฯ ที่มาร่วมงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ จี้แก้ปัญหาด่วน ขณะที่ผู้ว่าฯ โบ้ยเป็นการเข้าใจผิดเหตุไม่แจ้งความ

วันนี้ (30 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะข้าราชการระดับสูงของกระทรวงฯ เข้าร่วมงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ในพื้นที่ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อฟื้นฟูทำความสะอาดพื้นที่หลังน้ำท่วม โดยเป็นพื้นที่เป้าหมายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ในการสร้างเครือข่ายชุมชนชายฝั่งทะเล

ปรากฏว่า ในขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กำลังเดินไปยังลานกิจกรรมตามจุดต่างๆ ได้มีแกนนำชาวบ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งใน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่รับผลกระทบจากน้ำเน่าเสียที่ระบายออกมาจากภูเขาขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เข้าประชิดตัว และยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐมนตรีเร่งแก้ไข ท่ามกลางความตกตะลึงของข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ผู้ที่ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือ คือ ร.ต.สัมพันธ์ สนิทปู่ ชาวหมู่ที่ 2 ต.นาทราย ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำเน่าเสีย ระบุว่า ไม่สามารถที่จะรับสภาพความเดือดร้อนทุกข์ทรมานต่อปัญหานี้ได้แล้ว ชาวบ้านนับพันครัวเรือนอยู่ในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งไม่มั่นใจการแก้ไขปัญหาในระดับจังหวัดเพราะเชื่อว่าเกินกำลัง ขณะที่ปัญหายิ่งซ้ำเติมรุนแรงมากขึ้นทุกวัน
 

 
ขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ปัญหาขยะกำลังเกิดขึ้นทุกจังหวัด ในส่วนของ จ.นครศรีธรรมราช จะต้องค่อยๆ แก้ปัญหากันไป และเมื่อถามว่า ปัญหาน้ำเน่าเสียที่ทะลักลงพื้นที่ชุมชน และมีการประกาศจะแจ้งความดำเนินคดีต่อเทศบาลฯ

โดย กอ.รมน. ซึ่ง พล.อ.สุรศักดิ์ ได้เรียกให้ นายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะ ผอ.รมน.จังหวัดชี้แจงว่า ต้องมีแผนในการฟื้นฟูร่วมกัน ในการจัดการมันมีปัญหาจะต้องร่วมมือกัน เป็นปัญหาของเราทุกคน ขยะนี้เป็นของพวกเราทุกคน ไม่ใช่ขยะของเทศบาล ท่านเข้าใจไหม ต้องหันหน้าเข้าหากัน มาร่วมมือกันให้ได้ ส่วนการแจ้งความนั้น หน่วยงานราชการไม่สามารถแจ้งความหน่วยงานราชการด้วยกันได้ ส่วนการประกาศที่จะมีการแจ้งความนั้นเป็นการเข้าใจผิด ก่อนที่จะเดินออกไป

ส่วนปัญหาน้ำเน่าเสียที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ได้มีองค์กรเดียวที่เข้าไปดูแลชาวบ้านอย่างใกล้ชิดที่สร้างความอุ่นใจให้ชาวบ้านได้คือ กระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช นำหน่วยแพทย์เข้าตรวจผู้ป่วยที่ถูกระบุว่า เกิดจากน้ำเน่าจากกองขยะ ขณะเดียวกัน นพ.โสภณ เมฆธนะ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนโรคผิวหนัง พร้อมติดตามคุณภาพน้ำ และอากาศอย่างต่อเนื่อง
 

 
อย่างไรก็ตาม ในทางกฎหมาย ระหว่างการแจ้งความหน่วยงานราชการด้วยกันนั้น ในเรื่องนี้ได้มีประเด็นชี้ชัดในบทความวิชาการ เรื่อง “สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ : สยพต.” (http://www.ago.go.th/articles_56/article_050456.pdf) ซึ่งเขียนโดย นายอนุชาติ คงมาลัย อัยการอาวุโส คลังสมองอัยการ เมื่อ 1 พ.ย.2555 ปรับปรุงเพิ่มเติม 31 มี.ค.56 ได้ระบุใจความสำคัญถึงการดำเนินคดี โดยห้ามเพียงการฟ้องความแพ่งกันเท่านั้น เนื่องจากเป็นของรัฐบาลเดียวกัน ทำนองว่าเหมือนกับชักเงินจากกระเป๋าซ้ายมาไว้กระเป๋าขวา”

ส่วนการดำเนินคดีอาญานั้น ได้มีมติ ครม.ชัดเจนถึงแนวทางการดำเนินคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีปกครองของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ : มติ ครม. วันที่ 12 ธันวาคม 2549 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จึงได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ นร.0505/ว.184 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2549 เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการดำเนินคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีปกครอง เวียนแจ้งเวียนให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบ และถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีนี้แล้ว โดยมีแนวทางในการดำเนินคดี 7 ประการ
 

 
ในข้อ 1.คือการดำเนินคดีในศาลยุติธรรม โดยมีหัวข้อย่อยคือ 1.1 การดำเนินคดีอาญา โดยมีหลักการคือ เมื่อมีการกระทำความผิดทางอาญาต่อส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ให้แจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด ไม่สมควรว่าจ้างทนายความยื่นฟ้องคดีอาญาต่อผู้กระทำความผิดเอง ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจที่ถูกเอกชนฟ้องเป็นคดีอาญา ให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการแก้ต่างคดีให้ ถ้าพนักงานอัยการปฏิเสธ หรือขัดข้องในการรับแก้ต่างให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ มีสิทธิว่าจ้างทนายความดำเนินคดีได้ ซึ่งเป็นเนื้อหาสำคัญในบทความนี้

ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องรายหนึ่ง ระบุว่า แม้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จะชี้แจงถึงการไม่สามารถแจ้งความระหว่างหน่วยงานด้วยกันได้นั้น เป็นเพียงเฉพาะคดีแพ่งเท่านั้น ส่วนคดีอาญาสามารถดำเนินการได้เช่นบทความข้างต้น และเป็นที่น่าสังเกตว่า กรณีเกิดน้ำเน่าทะลักออกจากบ่อขยะอย่างรุนแรงนั้นได้ถูกระบุจากรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในนครศรีธรรมราช อย่างชัดเจนว่า เกิดจาก 2 สาเหตุด้วยกัน คือ เหตุสุดวิสัย เนื่องจากน้ำท่วมสูง และเกิดจากความเจตนาในการปล่อยระบายน้ำเสียออกมา
 

 
ดังนั้น เมื่อดูพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของ พ.ร.บ.เทศบาล พ.ร.บ.อบต. หรือแม้กระทั่ง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องหลายฉบับด้วยกัน จะมีผู้ที่เป็นเจ้าพนักงาน และมีอำนาจหน้าที่รักษา พ.ร.บ.แต่ละฉบับนั้นล้วนแต่มีผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะไม่มีการแจ้งความ หรือถ้าจะเกิดขึ้นก็คงเป็นไปได้ยากมาก

ส่วนการสำรวจล่าสุดโดยอากาศยานไร้คนขับ ในพื้นที่นาข้าวที่รองรับน้ำเน่าจากกองขยะที่ไม่สามารถทำนาได้แล้ว ยังคงเต็มไปด้วยน้ำเน่าเสีย และยังระบายลงไปในคลองเตย ซึ่งเป็นลำคลองสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ส่วนบริเวณภูเขาขยะที่มีการรับปากจากผู้ที่เกี่ยวข้องในที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าจะเร่งนำเครื่องกลหนักเข้ามายกระดับ และปรับแต่งคันดินกั้นน้ำเน่า จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
 

กำลังโหลดความคิดเห็น