นครศรีธรรมราช -อบต.นาทราย ส่งเจ้าหน้าที่คอยติดตามการไหลของน้ำเน่าจากกองขยะ ทน.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง ยอมรับไม่สามารถป้องกันพื้นที่ได้ ขณะที่ภาพมุมสูงพบว่ายังมีการไหลของน้ำเน่าลงคลองสาธารณะจนมีความแตกต่างของสีน้ำอย่างชัดเจน
วันนี้ (25 ม.ค.) เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำเน่าเสียจากบ่อขยะที่มีปริมาณสะสมมากกว่า 1.2 ล้านตัน ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต้องคอยเข้าติดตามการไหลของน้ำเน่าอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยไม่สามารถที่จะป้องกันได้ ทำได้เพียงแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์ รวมทั้งสอบถามข่าวคราวความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ต้องเลี้ยงชีพด้วยการหาปลาไปจำหน่าย และต้องยอมรับสภาพ เนื่องจากไม่สามารถย้ายถิ่นฐานไปอาศัยที่อื่นได้ แม้จะต้องหาปลาในน้ำเน่าเสียที่กำลังไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่า 2 วันที่ผ่านมา พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในนครศรีธรรมราช จะสั่งให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวบรวมข้อมูลแจ้งความดำเนินคดีต่อเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในฐานความผิดพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เร่งแก้ไขปัญหาป้องกันน้ำเน่าเสียในเบื้องต้น โดยการป้องกันไม่ให้น้ำเน่าเสียไหลออกมา แต่ทุกอย่างยังไม่เกิดขึ้น ส่วน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า การใช้มาตรา 9 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม สามารถทำได้แต่ผลกระทบ และพื้นที่ต้องมีความชัดเจน
ขณะที่ภาพมุมสูงจากอากาศยานไร้คนขับได้แสดงให้เห็นถึงการไหลของน้ำจากบ่อขยะ โดยแบ่งน้ำออกเป็น 2 สีอย่างชัดเจน โดยน้ำสีคล้ำจะไหลมาจากบ่อขยะ ส่วนน้ำมีขุ่นโคลนนั้นเป็นน้ำธรรมชาติในช่วงน้ำหลาก ส่วนน้ำที่ดำคล้ำนั้นขังอยู่ในพื้นที่มากกว่า 2 ตารางกิโลเมตร น้ำได้ไหลลงไปยังคลองเตย ซึ่งปลายน้ำสายนี้จะผ่านในหมู่ที่ 8 ตำบลท่างิ้ว และไหลผ่านคลองท่าแพ ไปอีกหลายหมู่บ้านของตำบลปากพูน ท่ามกลางผลกระทบของชาวบ้านที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
นางฉลวย ช่วยช่วง ชาวตำบลนาทราย ที่ต้องใช้เรือออกหาหญ้าให้ควาย รวมทั้งหาปลาในคลองสายนี้ ชี้ให้ดูจุดที่น้ำเน่าเสียไหลออกมาอย่างคุ้นเคยโดยบอกว่า น้ำไหลออกมาในช่วงหน้าแล้งจะมีกลิ่นรุนแรง ขณะนี้ช่วงน้ำหลากกลิ่นลดลง แต่น้ำดำไหลออกมาแตกต่างกับน้ำธรรมชาติ จนลำคลองเป็นน้ำ 2 สีอย่างเห็นได้ชัด แต่ท้ายสุดก็ต้องทนทำมาหากินในพื้นที่