ระนอง - มทบ.44 พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโรงเลื่อยไม้อีกครั้ง พร้อมเชิญเสี่ยใหญ่ เจ้าของโรงเลื่อยให้ข้อมูลด้วยตนเอง เบื้องต้น ตรวจสอบไม้ไม่เกินจำนวนนำเข้า แต่ต้องรอเอกสารที่มาของไม้ทั้งหมดที่อ้างว่านำเข้าจากประเทศมาเลเซีย และการประมูลจากด่านศุลกากรระนอง
วันนี้ (25 ม.ค.) พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 รับผิดชอบพื้นที่ จ.ชุมพร-ระนอง และคณะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่โรงเลื่อยแปรรูปไม้ หมู่ที่ 5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง พร้อมรับฟังผลการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง ในการตรวจสอบหลักฐานในการนำเข้าไม้ที่ได้ทำการอายัดไว้ทั้งหมด
โดย นายสุชิน แซ่ฉั่ว 77/3 หมู่ 5 บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เจ้าของโรงเลื่อย ได้ให้ข้อมูลต่อ มทบ.44 ว่า ไม้ทั้งหมดเป็นไม้ที่ทางโรงเลื่อยสั่งนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมา ได้สั่งไม้นำเข้ามาแล้ว จำนวน 15 ครั้ง ตามระเบียบของทางราชการที่อนุญาตให้นำเข้าไม้เพื่อแปรรูปได้ไม่เกิด 1,600 ลูกบาศก์เมตร และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นไม้ตะเคียนทอง-ทราย และไม้นาคบุตร เป็นไม้ที่ประมูลมาจากด่านศุลกากรจังหวัดหวัดระนอง เป็นไม้เก่า ไม่มีไม้ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด ที่ผ่านมา ถูกแอบอ้างใช้ชื่อตนในการทำกระทำผิดกฎหมายมาตลอด ซึ่งที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ตนเองได้ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ด้วยดีตลอดมา และเพื่อความโปร่งใสตนเองจะเป็นผู้แจ้งข้อมูลให้แก่ทางราชการทราบเองว่าผู้ใดแอบอ้างชื่อตน ลักลอบนำไม้ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในจังหวัดระนอง
พล.ต.อุมดมเดช กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และเพื่อความโปร่งใส หากเจ้าของโรงเลื่อยมีหลักฐานมาแสดงเพื่อแก้ข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผ่านมานั้นเนื่องจากมีการลักลอบนำไม้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ทหารต้องมีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้หากว่าทางเจ้าของโรงเลื่อยมีหลักฐานหนังสือแสดงการได้มาของไม้ถูกต้อง ก็ต้องมาตรวจสอบกัน โดยต้องตรวจสอบในรายละเอียดหลายๆ เรื่อง ทั้งจำนวนไม้ ชนิดไม้ ที่มาที่ไปของไม้ ไม้ที่แปรรูปแล้วจำหน่ายแล้วไปจำนวนเท่าไหร่ และยังมีรายละเอียดในการตรวจสอบอีกหลายเรื่องไม่ใช่ว่ามีหนังสือนำเข้า
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ได้มอบหมายให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง หน่วยป้องกันปราบปรามการทำลายป่าจังหวัดระนอง ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด หากผิดก็ว่ากันไปตามผิดหากถูกต้องก็ต้องว่ากันไปตามความถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นตามนโยบายของกองทัพบก และนโยบายของรัฐบายที่ต้องการแก้ไขในสิ่งที่ผิด พร้อมกันนี้ ยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารอีกหนึ่งชุดประจำอยู่ที่โรงเลื่อยดังกล่าวจนกว่ากระบวนการตรวจสอบจะทำจนแล้วเสร็จเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเคลื่อนย้ายไม้ที่เกิดปัญหา
