ปัตตานี - กรณีการให้ความช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนที่ไร้สัญชาติ และไม่มีเอกสารรับรองความเป็นพลเมืองไทย เริ่มมีความหวังอีกครั้ง หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือกำหนดแนวทางอย่างเป็นรูปธรรม
วันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างแดน และไม่มีเอกสารสิทธิรับรองความเป็นพลเมืองของประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันคนเหล่านี้ยังไม่มีหนังสือเอกสารรับรองความเป็นพลเมืองไทย ทั้งๆ ที่เป็นลูกหลานคนไทย มีความประสงค์ และจำนงที่จะเป็นพลเมืองไทย แต่เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก จนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร โดยส่วนใหญ่จะรับจ้างเป็นคนงานสวน จะอาศัยอยู่ตามสวนปาล์ม สวนยางพารา เป็นต้น เนื่องจากไม่มีเอกสารรับรองความเป็นพลเมืองของประเทศมาเลเซีย จึงไม่กล้าออกมาแสดงตนเหมือนคนทั่วไป
จากการเปิดเผยสาเหตุที่คนเหล่านี้ต้องกลายเป็นคนไร้สัญชาตินั้นมาจากหลายสาเหตุ บางคนอพยพไปหางานทำฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน รับจ้างกรีดยาง รับจ้างเป็นคนงานในสวนปาล์ม เป็นต้น และสร้างครอบครัวจนมีลูกมีหลานที่นั่น บางรายตามพ่อแม่ไปทำงานตอนเยาว์วัย ก่อนอายุ 15 ปี จึงไม่ทันถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนในขณะนั้น จึงทำให้ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ เพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชนรับรองความเป็นพลเมืองไทย แต่ติดที่เอกสารหลักฐานการรับรอง โดยเฉพาะการตรวจสอบเปรียบเทียบสารพันธุกรรม (DNA) กับญาติที่อยู่ในฝั่งไทย และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงทำให้คนที่ไม่มีเงินพอขาดโอกาสการเป็นพลเมืองของไทยไปโดยปริยาย ซึ่งส่วนใหญ่คนไทยเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในเขตรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
ล่าสุด นายมะแอ สะอะ หรือนายสะมะแอ ท่าน้ำ และนายดาโอ๊ะ มะเซ็ง หรือนายดาโอ๊ะ ท่าน้ำ ได้รับการมอบหมายให้ช่วยประสานพี่น้องคนไทยที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เร่งให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก เพื่อให้คนไทยเหล่านี้สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในการมีสัญชาติ และเป็นพลเมืองไทย
นายมะแอ สะอะ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.อ.นเรนทร์ฤทธิ์ มหารัขกะ เสธ. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วย พ.อ.สรรวิชญ์ ภูมิทักษ์วงศ์ ฉก.สันติสุข ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า โดยมี นายดาโอ๊ะ มะเซ็ง เข้าร่วมชี้แจงผลการพูดคุยกับคนไทยดังกล่าวให้ทราบ เพื่อกำหนดหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการช่วยเหลือคนไทยต่อกรณีที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน