ยะลา - ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ศชต. จับผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า 648,000 เม็ด มูลค่ากว่า 97 ล้านบาท หลังสืบทราบเตรียมส่งจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สารภาพรับจ้างขน 5 แสนบาท
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่หน้าอาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน รองผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย พล.ต.นิพนธ์ รองสวัสดิ์ เลขา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถติดตามจับกุมได้ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน รองผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สืบทราบมาว่า จะมีเครือข่ายค้ายาเสพติดส่งมอบยาบ้าจำนวนมากให้แก่เครือข่าย เพื่อนำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้ทำการวางแผนเพื่อล่อซื้อ
โดยเจ้าหน้าที่ได้นัดส่งมอบยาบ้ากับผู้ต้องหาในพื้นที่ ม.13 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และสามารถจับกุม นายกมล สุขภูศรี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 342 ม.5 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 648,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 97 ล้านบาท พร้อมรถยนต์บรรทุก ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-5940 เพชรบุรี จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งตัวไปดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทเเอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ใว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งในเบื้องต้น นายกมล ให้การรับสารภาพว่า มีหน้าที่รับจ้างขนยาเสพติดดังกล่าว โดยได้ค่าจ้างขนส่งครั้งนี้เป็นเงิน 5 แสนบาท
พฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากในห้วงที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันทำการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบ และสามารถจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมยาเสพติดของกลางเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้น ได้ร่วมกันทำการสืบสวนขยายผล และทราบข้อมูลเครือข่ายที่ร่วมกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อขยายผลการจับกุม
ต่อมา จากการสืบสวนทราบว่า มีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพฤติการณ์ติดต่อกับเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาประเทศไทย ทางจังหวัดหนองคาย-บึงกาฬ เพื่อส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เส้นทางหลวงสายหลักในการลักลอบลำเลียง จึงได้ร่วมกันสืบสวนติดตามเรื่อยมา
ต่อมา ในช่วงก่อนวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า มีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญอยู่ระหว่างลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดยาบ้าจำนวนมาก จากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงมายังจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เส้นทางหลวงสายเอเชีย จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อทำการติดตามจับกุม กระทั่งต่อมา ในวันเกิดเหตุสามารถสกัดจับกุมตัวผู้ต้องหานี้ได้พร้อมของกลาง ในขณะลักลอบลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว
“สำหรับการดำเนินการต่อทรัพย์สินของผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ได้ประสานกับทาง ป.ป.ส.ภาค 6 และกำลัง 3 ฝ่ายในพื้นที่ จ.ตาก เข้าทำการตรวจยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่บ้านภรรยาใน อ.สามเงา จ.ตาก จำนวนหลายรายการ สำหรับทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องต่อการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดของผู้ต้องหาอยู่ระหว่างติดตามตรวจยึดเพิ่มเติม ส่วนเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในกระทำความผิดอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน กล่าว