สุราษฎร์ธานี - สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังอ่วม ระดับน้ำยังท่วมขัง ทหารเรือเตรียมติดตั้งเรือผลักดันน้ำ จำนวน 38 เครื่อง ในแม่น้ำตาปี เร่งดันน้ำลงสู่ทะเลก่อนน้ำทะเลขึ้นสูงสุดในวันที่15 มกราคม เพื่อเตรียมรับมวลน้ำก้อนใหม่ตามคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ปภ.สรุป มี 15 อำเภอได้รับผลกระทบ มีผู้เดือดร้อนกว่า 2 แสนคน เสียชีวิต 6 สูญหาย 1 ด้านสาธารณสุขระบุน้ำท่วมนาน ชาวบ้านเริ่มเครียด และป่วยเพิ่มขึ้น
วันนี้ (11 ม.ค. ) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขยายเป็นวงกว้าง ปภ.สุราษฎร์ธานี สรุปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ถนนหนทาง และพื้นที่การเกษตรตั้งแต่วันที่ 2-11 มกราคม 2560 มีพื้นที่ 15 อำเภอ 88 ตำบล 669 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 75,985 ครัวเรือน 222,838 คน มูลค่าความเสียหายในเบื้องประมาณ 252 ล้านบาท และมีผู้เสียชีวิต 6 คน สูญหาย 1 คน ระดับน้ำยังคงท่วมขังสูงตั้งแต่ 50 ซม.ถึง 3 เมตรเศษในที่ลุ่ม ชาวบ้านติดเกาะจำนวนมาก
ด้าน นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารเรือ จะนำเรือผลักดันน้ำมาติดตั้งที่บริเวณสะพานจุลจอมเกล้า แม่น้ำตาปี อ.พุนพิน จำนวน 10 ลำ ที่แม่น้ำพุนพิน จำนวน 6 ลำ เริ่มติดตั้งได้ในวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค. ) เป็นต้นไป นอกจากนั้น กรมชลประทานนำเรือผลักดันน้ำมาติดตั้งที่สะพานบางกล้วย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จำนวน 6 ลำ ซึ่งจะสามารถติดตั้งได้ในคืนนี้ เพื่อดำเนินการเร่งผลักดันน้ำออกสู่ทะเล ก่อนน้ำทะเลหนุนสูงสุดในวันที่ 15 มกราคมนี้ และเป็นการพร้อมรับมวลน้ำก้อนใหม่ในวันที่ 16 มกราคมนี้เช่นกัน ตามคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งกรมชลฯ จะนำเครื่องผลักดันน้ำเข้ามาอีก 9 เครื่อง ในสัปดาห์หน้า
วันนี้หลายภาคส่วนต่างเร่งนำเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารแห้งพร้อมน้ำดื่มมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ สมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทยได้นำมามอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ตำบลตะเคียนทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จำนวน 1,000 ชุด
ในขณะที่นายอนุวัฒน์ รจิตานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี มวลน้ำจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก อุทยานแห่งชาติคลองพนม ที่ไหลลงคลองพุมดวง และมวลน้ำจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง มวลน้ำจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ที่ไหลลงคลองยัน และมวลน้ำจากเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ที่ไหลลงคลองบ้านนาสาร ได้ไหลผ่านพื้นที่เขตเทศบาลเมืองท่าข้ามลงสู่ทะเลไปหมดแล้ว โดยใช้การสังเกตจากธรรมชาติว่ากระแสน้ำที่ไหลผ่านจะมีจำพวกเศษไม้ขอนไม้ลอยปนมา ส่วนมวลน้ำจากจังหวัดกระบี่ และจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังจะไหลผ่านพื้นที่โดยสังเกตมีผักตบชวาลอยมา ซึ่งในวันพรุ่งนี้น้ำทะเลจะเริ่มหนุนขึ้นจะส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่ง และในช่วงวันที่ 15 มกราคม น้ำทะเลจะหนุนสูงเต็มที่ ประกอบกับมีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีฝนตกหนักอีกระลอกในวันที่ 16 มกราคมนี้ ทางเทศบาลได้ประสาน 8 ชุมชน ให้มีการเตรียมพร้อมมากกว่าปี 54 โดยเตรียมเรือที่มีประสิทธิภาพสามารถสู้กับกระแสน้ำที่ไหลรุนแรง พร้อมจัดตั้งศูนย์อพยพไว้พร้อมแล้ว
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ประสบภัยต้องเจอกับสถานการณ์อุทกภัยที่ยาวนานจนมีผลกระทบต่อประชาชนมากที่สุดก็คือ ภาวะเครียดจัด การช่วยเหลือล่าช้า การรักษาพยาบาลเข้าไม่ถึง และจากปัญหาการใช้ชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วยจำนวนมากทั้งเรื่องภาวะเครียด ไข้หวัด แพ้น้ำ น้ำกัดเท้า และเริ่มเป็นโรคอุจจาระร่วง และโรคฉี่หนูที่จะตามมา ซึ่งแพทย์ และทีมพยาบาลในพื้นที่มีกำลังไม่เพียงพอ และอ่อนล้าจากการปฏิบัติหน้าที่ในการลงพื้นที่ค่อนค้างลำบากในการเดินทางที่จะเข้าถึงที่ประชาชนอพยพอยู่ ซึ่งทางจังหวัดต้องการแพทย์เสริมอีก 12 ชุด ชุดละ 4 นาย แต่ขณะนี้มีแพทย์เข้าเสริมแค่ 4 ทีม ยังขาดอีก 9 ทีม ประกอบกับยาสามัญประจำบ้านก็ยังขาดอยู่อีกกว่า 10,000 ชุด ดังนั้น จึงขอรับการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชน