นราธิวาส - น้ำท่วมลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เหลือเพียงบางหมู่บ้านที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ขณะที่กาชาดลุยแจกถุงยังชีพบรรเทาทุกข์เบื้องต้นแล้ว
วันนี้ (7 ม.ค.) สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุด สภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องได้หยุดลงแล้ว แต่มีบ้างเป็นประปรายในบางพื้นที่ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือน และพื้นที่ทางเกษตรของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.59 ถึงปัจจุบันที่ตกอยู่ในสภาวะน้ำท่วมขัง 64 ตำบล 289 หมู่บ้านในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เริ่มคลี่คลายไปตามลำดับ และบางพื้นที่กลับสู่สภาวะปกติแล้ว
ยกเว้นประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ราบลุ่มริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก 9 ชุมชน ยังคงได้รับผลกระทบ แม้ระดับในแม่น้ำสุไหงโก-ลก จะลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยวันละ 30-40 ซม. ในกรณีที่ฝนหยุดตกลงมา โดยล่าสุด พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังหนักที่สุดอยู่ใน 5 ชุมชน คือ ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าชมพู่ ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนท่าโรงเลื่อย และชุมชนหลังด่าน ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 1 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมช้ำซาก
ส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้น เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ตระเวนแจกจ่ายถุงยังชีพ น้ำดื่ม และอาหารกล่องให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นจุดพื้นที่ที่ทางการให้ความช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง โดย 3 หมู่บ้านดังกล่าว คือ หมู่บ้านโคกสะตอ บ้านโคกบาหลี และบ้านท่าแพ ซึ่งตั้งอยู่ ม.7 ต.สุไหงปาดี ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ 171 ครัวเรือน รวม 440 คน ซึ่งยังคงมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 40-90 ซม. เนื่องจากมีลักษณะเป็นท้องกระทะ และเป็นจุดรองรับน้ำที่ระบายจากตัวเมือง อ.สุไหงปาดี เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำบางนรา อีกทอดหนึ่ง
โดยล่าสุด นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี และนางไขแสง ศักดา นายกเหล่ากาชาด จ.นราธิวาส ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำถุงยังชีพ น้ำดื่ม และอาหารกล่อง มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้ง 3 หมู่บ้าน พร้อมนั่งเรือตระเวนออกสำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมให้การช่วยเหลือหลังน้ำลด รวมทั้งเยี่ยมเยียนประชาชนถึงภายในบ้านพักที่มีระดับน้ำท่วมขังสูงเกือบ 1 เมตร พร้อมทั้งได้นำพยาบาลเพื่อประชาสัมพันธ์ถึงผลพวงที่อยากจะเกิดขึ้นต่อสุขภาพของประชาชน เช่น เป็นไข้หวัด น้ำกัดเท้า โดยเฉพาะเด็กเล็ก และคนชราต้องดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี
