xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาค 4 นำรูปแบบเหมืองแร่-ท่องเที่ยวภูเก็ต เป็นต้นแบบพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ภูเก็ต หารือร่วมกับภาครัฐ และเอกชน ด้านการทำเหมืองแร่และท่องเที่ยว นำเป็นต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ สร้างงาน สร้างรายได้ นำไปสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมเทศบาลนครภูเก็ต พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการทำเหมืองแร่ในภูเก็ต และการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การเพิ่มมูลค่า โดยมี นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายสำราญ สินธุ์ทอง ที่ปรึกษาสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง กองทัพบก ตัวแทนจากบริษัทไทยซาร์โก้ ภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมกันนำเสนอการทำเหมืองแร่ของภูเก็ตตั้งแต่อดีตที่เคยรุ่งเรือง จนราคาแร่ดีบุกตกต่ำและได้พัฒนามาเป็นการท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบัน

พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า การเดินทางมาภูเก็ตในครั้งนี้เพื่อมารับทราบข้อมูลการทำเหมือแร่ของภูเก็ตในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างมากอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับจากภาครัฐ และเอกชนในวันนี้เป็นต้นแบบในการนำไปพัฒนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่ที่สงบสุข มั่งคั่ง และยั่งยืน เพราะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีการทำเหมืองแร่และขุมน้ำที่เกิดจากการทำเหมืองแร่หลายๆ จุดอยู่เหมือนกัน ทั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะสร้างงาน และเพิ่มรายได้ให้แก่พี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ นำไปสู่ความสงบสุข โดยเฉพาะในส่วนของเหมืองแร่ลาบู จ.ยะลา ที่ทางกองทัพภาคที่ 4 มีแนวคิดที่จะฟื้นฟูการทำเหมืองแร่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยที่ผ่านมา ได้มีการจัดโครงการปอเทือง ทานตะวัน บานที่เมืองลาบู เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ เพื่อภารกิจด้านการรักษาความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งมีวันหยุดต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน และเดินทางไปกลับด้วยความปลอดภัย จึงได้กำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังทุกพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มงวด และรัดกุม โดยเน้นมาตรการป้องกันมากกว่าการปราบปราม ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยให้มีการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมเพื่อบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ มหาดไทย แพทย์ อาสาสมัคร กู้ภัย พนักงานดับเพลิง ชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) จัดทำแผนเผชิญเหตุ และซักซ้อมการปฏิบัติโดยเฉพาะจุดที่มีการจัดงาน COUNTDOWN สนามบิน สถานีขนส่งรถไฟ รถยนต์ทุกประเภท

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น