พังงา - กระทรวงวัฒนธรรม ทุ่มงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท ผุดโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ เรือประมงเกยตื้น (ส้ม ฟ้า) ที่บ้านน้ำเค็ม จ.พังงา เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรม และแหล่งรู้พิบัติภัยสึนามิ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (24 ธ.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล 3 ศาสนา ครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ และพิธีเปิดโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ เรือประมงเกยตื้น (ส้ม ฟ้า) ณ บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชนชาวบ้านน้ำเค็มร่วมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล 3 ศาสนา พุทธ อิสลาม คริสต์ ก่อนจะทำการเปิดป้ายโครงการ และเยี่ยมชมนิทรรศการ
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547เป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักทั้งชีวิต และทรัพย์สินแก่จังหวัดพังงา และจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน กระทรวงวัฒนธรรมเล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการบันทึกประวัติศาสตร์ และฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุธรณีพิบัติภัยสึนามิ จึงได้เริ่มโครงการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ ณ สถานที่เกิดเหตุ บ้านน้ำเค็ม จังหวัดพังงา เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรม ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำนี้ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ที่บอกเล่าเป็นเรื่องราวเหตุการณ์ภัยพิบัติในครั้งนั้น โดยเสนอความรู้เชิงศิลปวัฒนธรรม สังคมสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น และวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่เน้นศักยภาพการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ในเหตุการณ์สึนามิที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และเป็นสถานเตือนใจให้ระลึกถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ที่บ้านน้ำเค็ม เป็นศูนย์เตือนภัย หลบภัย
โดยการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยช่วงแรกได้ทำการจัดซื้อเรือประมง 2 ลำ (เรือส้มฟ้า) ที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดมาเกยตื้น กลางชุมชนบ้านน้ำเค็ม บนที่ดินจำนวน 5 ไร่ ซึ่ง อบต.บางม่วง ได้จัดซื้อไว้ก่อนหน้านี้ ในระยะที่ 2 เป็นการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิ ซึ่งได้รับงบประมาณให้ดำเนินการในปี 2560 ผูกพัน 2561 เป็นจำนวน 64.8 ล้านบาท โดยปี 2560 จะเริ่มใช้เงิน จำนวน 12.8 ล้านบาท และจะใช้อีก 52 ล้านบาท ในปี 2561 ขณะนี้ได้ออกแบบตัวอาคารดังกล่าวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะได้เริ่มรับจ้างประมาณเดือนมกราคม 2560 และจะของรับงบประมาณในการตกแต่งภายในเพื่อจัดนิทรรศการในปี 2561 อีก 30 ล้านบาท เมื่อสร้างเสร็จจะมอบให้ทางจังหวัดพังงา และ อบต.บางม่วง เป็นผู้ดูแลแหล่งเรียนรู้ จัดกิจกรรม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนต่อไป
สำหรับพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นอนุสรณ์สถานจากเหตุการณ์พิบัติภัยสึนามิเท่านั้น แต่จะเป็นหอเตือนภัย และพื้นที่หลบภัย ทั้งยังเป็นสถานที่จารึกรายชื่อผู้ที่ประสบภัยพิบัติในครั้งนั้นบนผนังโลหะด้านนอกอาคาร ส่วนภายในเป็นศูนย์ข้อมูลด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของบ้านน้ำเค็ม และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งจัดให้มีพื้นที่สำหรับร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพให้แก่พี่น้องบ้านน้ำเค็ม ลักษณะของตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ ได้มีการผสมผสานภูมิทัศน์วัฒนธรรมพื้นถิ่น รูปทรงอาคาร ได้แนวคิดจากอุปกรณ์ทำกินในวิถีชีวิตประจำวันของชาวบ้าน ซึ่งประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ เช่น สุ่ม ไซ รอบ การออกแบบเน้นให้อาคารมีความโปร่งโล่งแข็งแรง และสอดคล้องต่อสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ และเป็นฉากหลังที่ประกอบเรื่องราวของเรือทั้ง 2 ลำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้รูป ของพิพิธภัณฑ์แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลักหลัก ได้แก่ 1.ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง โดยนำซากเรือที่พบในเหตุการณ์ภัยพิบัติมาแสดง 2.ภูมิทัศน์และพืชพรรณมีความเป็นเอกลักษณ์ ทำให้รู้สึกสงบ และความเคารพในสถานที่ 3.ศูนย์บริการข้อมูล มีลักษณะเปิดโล่ง สำหรับกิจกรรมของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยว