xs
xsm
sm
md
lg

ตร.สตูลรวบแก๊งสาวแสบค้ายาบ้าในพื้นที่สตูล พร้อมของกลางกว่า 3.4 หมื่นเม็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - ตร.สตูล บุกจับแก๊งสาวแสบคาบ้านเช่า ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 34,000 เม็ด พบเป็นแหล่งปล่อยยาขายให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่

วันนี้ (22 ธ.ค.) พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ทัตธงสักก์ ภู่พันธัชสีห์ ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รอง ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.ชัชพิสิทธิ์ นครวงศ์ รองผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.วิชชภัณฑ์ จันทราภรณ์ ผกก.สส.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ดำกระบี่ ผกก.สภ.ควนกาหลง สั่งการให้ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ปะดุกา หน.ชปส.ภ.จว.สตูล พ.ต.ท.ภุชงค์ สงวนจิตร หน.ชปส.สภ.เมือง สตูล พ.ต.ท.มานะ ทิพย์มณี รอง ผกก.สส.สภ.ควนกาหลง พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ตาแหลม สว.สส.สภ.ควนกาหลง พ.ต.ต.กันตภณ เจติพัฒนกูล สว.กก.สส.ภ.จว.สตูล ชุดสืบสวน สภ.ควนกาหลง ชุด ชปส.ภ.จว.สตูล และ กก.สส.ภ.จว.สตูล ร่วมกันแถลงข่าว

หลังร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ น.ส.วรรณภา หรือหญิง คงจินดามณี อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 7 ต.อุไดเจริญ อ.ควนกาหลง น.ส.สุชาดา ศักดิ์แสง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 227 หมู่ 3 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล และ น.ส.เลขา หรือถั่ว ปรีชา อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 166 หมู่ 9 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล พร้อมด้วยของกลางยาบ้าเม็ดสีส้ม จำนวน 28,855 เม็ด อุปกรณ์การเสพ และโทรศัพท์มือถือ พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 9 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล
 

 
ก่อนขยายผลจับกุม นายเอกสิทธิ์ หรือเขียว เรืองทอง อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 29 หมู่ 5 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 5,997 เม็ด และตั้งข้อหาข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยจับกุมได้บริเวณในป่าละเมาะข้างบ้านเลขที่ 80 หมู่ 5 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล ต่อเนื่องบ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ หมู่ 2 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล 

สำหรับพฤติกรรมผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ที่บ้านเช่าเลขที่ 1 ม.9 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล มีการจำหน่ายยาเสพติดให้แก่บุคคลทั่วไปในพื้นที่ผังผาสามัคคี และข้างเคียง อีกทั้งยังมีการมั่วสุมเสพติด ก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบ น.ส.วรรณภา หรือหญิง คงจินดามุณี น.ส.สุชาดา ศักดิ์แสง และ น.ส.เลขา หรือถั่ว ปรีชา อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ร.ต.อ.อภิชัย ขณะรัตน์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงตัว และขอตรวจค้นตัว 
 

 
พร้อมสังเกตเห็น น.ส.วรรณภา แสดงท่ามีพิรุธ และล้วงสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังข้างขวาตัวที่สวมใส่อยู่ พบยาบ้าบรรจุในถุงสีใสเลื่อนเปิด 3 ถุง จำนวน 250 เม็ด จากการสอบถามยอมรับว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตน จากนั้นตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม

ส่วน น.ส.สุชาดา พบยาบ้าบรรจุในหลอดกาแฟห่อด้วยกระดาษฟอยล์ 5 เม็ด อยู่ในชุดเสื้อชั้นใน และยอมรับว่าเป็นของตนเอง จากนั้นได้มีการตรวจค้นตัว น.ส.เลขา ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากนั้นได้ขอตรวจค้นภายในบ้านโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ดูจนพอใจ ผลการตรวจค้นพบยาบ้าเม็ดสีส้ม ประทับตรา WY ห่อด้วยกระดาษสีขาว-ชมพู มีตราประทับ 999 ที่ห่อกระดาษ จำนวน 14 มัด มัดละ 2,000 เม็ด และบรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 3 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวมจำนวน 28,600 เม็ด โดยยาบ้าจำนวนดังกล่าวอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ วางในตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนของ น.ส.วรรณภา ก่อนให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยมีไว้จำหน่ายให้วัยรุ่นในพื้นที่ 
 

 
หลังจับกุม น.ส.วรรณภา หรือหญิง คงจินดามุณี พร้อมพวกในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนั้นได้มีการขยายผลจนสามารถจับกุมตัว นายเอกสิทธิ์ หรือเขียว เรืองทอง ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และให้การรับสารภาพว่าตนได้รับยาบ้ามา จำนวน 4 มัด จาก น.ส.วรรณภา จริง และได้นำยาเสพติดไปซุกซ่อนในบ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ หมู่ 2 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 5,997 เม็ด และรับสารภาพว่าเป็นของตนเองจริงที่นำมาซุกซ่อนไว้

สำหรับผู้ต้องหา 4 รายนี้ เป็นเครือข่ายเดียวกัน หลังมีการก่อเหตุยิงถล่มบ้านในพื้นที่ อ.มะนัง จ.สตูล เพื่อทวงหนี้ค่ายาเสพติด ซึ่งขณะนี้ตำรวจรู้ตัวการใหญ่เครือข่ายสำคัญแล้ว แต่ที่เหนือความคาดหมาย แม้ผู้ต้องหาทั้ง 4 จะมีบัญชีรายชื่อในการติดตามตัวว่าจะมีการซุกซ่อนยาบ้าจำนวนมากมายไว้ในพื้นที่ 

พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 กล่าวด้วยว่า การจับกุมในครั้งนี้ต้องมีการขยายผลตัวการใหญ่ต่อไป และเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เกี่ยวพัน รวมทั้งเครือข่ายพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต้องมีการติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ หลังการจับกุมจะดำเนินการในขั้นตอนการยึดทรัพย์ไปให้ถึงลูกหลาน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น