พังงา - คืบหน้ารถตู้พาชาวต่างชาติไปต่อวีซ่าที่จังหวัดสตูล แหกโค้งเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก รถตู้คันเกิดเหตุเป็นรถป้ายดำ ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นรถรับจ้างสาธารณะ เบื้องต้น ทาง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย มีค่าชดเชยความเสียหายโดยผู้เสียชีวิตรายละ 300,000 บาท ผู้บาดเจ็บรายละ 80,000 บาท
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายศรีพงศ์ บุตรงามดี รอง ผวจ.พังงา พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม และติดตามอาการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากจังหวัดภูเก็ต จำนวน 9 คน เพื่อเดินทางไปขอต่อวีซ่า ที่จังหวัดสตูล ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนบ้านเลขที่ หมู่4 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ Mr.Step scbastien Jean-Paul Pelletier ส่วนอีก 2 ราย อยู่ในระหว่างตรวจสอบรายชื่อ สำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ได้แก่ Miss.Nadia ชาวรัสเซีย Miss.Jejass Tlasrgas ชาวออสเตรีย Miss.Baurgartner Vere ชาวออสเตรีย
ส่วนอีกคน Mr.Wennie Cajeras อาการสาหัสมากต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และที่ปลอดภัยแล้วแต่ยังต้องนอนรักษาตัวที่โรงยาบาลพังงา 3 ราย คือ นายประวิทย์ ระวีรัตน์ คนขับรถตู้ Mr.Anam Wicaksono ชาวอินโดนีเซีย Mr.Gary Olive ชาวอังกฤษ ส่วนภรรยาคนขับรถบาดเจ็บเล็กน้อย โดยผู้เสียชีวิตมีทั้งชาวอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรีย รัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส และวีซ่ากำลังจะหมดอายุ จึงได้ติดต่อกับ บ.อินเตอร์ การ์ด แอนด์ วีซ่า จก. ซึ่งเป็นบริษัทที่รับดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการต่อวีซ่าให้แก่ชาวต่างชาติ จนมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
ด้าน นายศรีพงศ์ บุตรงามดี รอง ผวจ.พังงา กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.พังงา ให้ติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลชาวต่างชาติอย่างเต็มที่ และประสานไปยังสถานกงสุลแจ้งข่าวการเสียชีวิต และบาดเจ็บ เพื่อให้ญาติได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งฝนตก ทางโค้ง และตัวคนขับรถตู้เองด้วยจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ขณะที่ น.ส.หทัยรัตน์ คงชนะ ขนส่งจังหวัดพังงา กล่าวว่า พบว่ารถตู้คันเกิดเหตุเป็นรถป้ายดำ ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นรถรับจ้างสาธารณะ จึงต้องประสานสถานที่จดทะเบียนที่ขนส่งภูเก็ต ว่ามีการจดทะเบียน และใช้รถถูกประเภทหรือไม่ ในส่วนของขนส่งพังงา ต้องรอการตรวจสอบทะเบียน และสภาพรถก่อนจึงสามารถสรุปว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาอย่างใดหรือไม่ เบื้องต้น ทาง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย มีค่าชดเชยความเสียหาย โดยผู้เสียชีวิตรายละ 300,000 บาท ผู้บาดเจ็บรายละ 80,000 บาท ซึ่งทราบว่ารถทำประกันชั้น 1 ไว้ แต่ต้องดูรายละเอียดก่อนว่าทางประกันจะจ่ายค่าสินไหมอย่างไรต่อไป
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายศรีพงศ์ บุตรงามดี รอง ผวจ.พังงา พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม และติดตามอาการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากจังหวัดภูเก็ต จำนวน 9 คน เพื่อเดินทางไปขอต่อวีซ่า ที่จังหวัดสตูล ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนบ้านเลขที่ หมู่4 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ Mr.Step scbastien Jean-Paul Pelletier ส่วนอีก 2 ราย อยู่ในระหว่างตรวจสอบรายชื่อ สำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ได้แก่ Miss.Nadia ชาวรัสเซีย Miss.Jejass Tlasrgas ชาวออสเตรีย Miss.Baurgartner Vere ชาวออสเตรีย
ส่วนอีกคน Mr.Wennie Cajeras อาการสาหัสมากต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และที่ปลอดภัยแล้วแต่ยังต้องนอนรักษาตัวที่โรงยาบาลพังงา 3 ราย คือ นายประวิทย์ ระวีรัตน์ คนขับรถตู้ Mr.Anam Wicaksono ชาวอินโดนีเซีย Mr.Gary Olive ชาวอังกฤษ ส่วนภรรยาคนขับรถบาดเจ็บเล็กน้อย โดยผู้เสียชีวิตมีทั้งชาวอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรีย รัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส และวีซ่ากำลังจะหมดอายุ จึงได้ติดต่อกับ บ.อินเตอร์ การ์ด แอนด์ วีซ่า จก. ซึ่งเป็นบริษัทที่รับดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการต่อวีซ่าให้แก่ชาวต่างชาติ จนมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
ด้าน นายศรีพงศ์ บุตรงามดี รอง ผวจ.พังงา กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.พังงา ให้ติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลชาวต่างชาติอย่างเต็มที่ และประสานไปยังสถานกงสุลแจ้งข่าวการเสียชีวิต และบาดเจ็บ เพื่อให้ญาติได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งฝนตก ทางโค้ง และตัวคนขับรถตู้เองด้วยจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ขณะที่ น.ส.หทัยรัตน์ คงชนะ ขนส่งจังหวัดพังงา กล่าวว่า พบว่ารถตู้คันเกิดเหตุเป็นรถป้ายดำ ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นรถรับจ้างสาธารณะ จึงต้องประสานสถานที่จดทะเบียนที่ขนส่งภูเก็ต ว่ามีการจดทะเบียน และใช้รถถูกประเภทหรือไม่ ในส่วนของขนส่งพังงา ต้องรอการตรวจสอบทะเบียน และสภาพรถก่อนจึงสามารถสรุปว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาอย่างใดหรือไม่ เบื้องต้น ทาง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย มีค่าชดเชยความเสียหาย โดยผู้เสียชีวิตรายละ 300,000 บาท ผู้บาดเจ็บรายละ 80,000 บาท ซึ่งทราบว่ารถทำประกันชั้น 1 ไว้ แต่ต้องดูรายละเอียดก่อนว่าทางประกันจะจ่ายค่าสินไหมอย่างไรต่อไป
