นราธิวาส - มวลน้ำป่าบนเทือกเขาสันกาลาคีรี ต้นกำเนิดในพื้นที่ อ.สุคิริน ไหลทะลักลงสมทบแม่น้ำสุไหงโก-ลก จนล้นตลิ่ง ก่อนไหลบ่าเข้าท่วมแล้ว 3 ชุมชน ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30-50 ซม. ประชาชนกว่า 40 ครัวเรือนเดือดร้อน
วันนี้ (21 ธ.ค.) มีรายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยได้แจ้งว่า บรรยากาศทั่วไปบนท้องฟ้าเริ่มแจ่มใส และมีแสงแดดส่องจ้าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่าน แต่ยังคงมืดครึ้มเป็นช่วงๆ ส่งผลทำให้น้ำป่าบนเทือกเขาสันกาลาคีรี ที่มีต้นกำเนิดในพื้นที่ อ.สุคิริน ซึ่งมีความอิ่มตัว ได้ไหลทะลักลงมาสมทบในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่มีปริมาณน้ำฝนได้สะสมจนเกิดล้นตลิ่งอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา
ส่งผลทำให้บ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่แนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก จำนวน 3 ชุมชน คือ ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนท่าประปา และชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนกว่า 40 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมขัง โดยมีระดับสูงเฉลี่ย 30-50 เซนติเมตร และยังมีทีท่าว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ฝนจะหยุดตกลงมาแล้วก็ตาม จนประชาชนต้องใช้เรือยนต์รับจ้างในการเดินทางไปเพื่อไปทำกิจธุระนอกบ้าน แทนการใช้รถทุกชนิด
ล่าสุด ร.ท.ชูเดช ผึ่งผาย ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15122 ฉก.นราธิวาส 30 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมฝ่ายปกครอง นำเรือท้องแบนออกให้การช่วยเหลือประชาชน ด้วยการขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นหนีน้ำ รวมทั้งอพยพสัตว์เลี้ยงไปอาศัยชั่วคราวบนเนินหญ้าสูง ซึ่งอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุน้ำท่วม
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ประชาชนกว่า 40 ครัวเรือน จาก 3 ชุมชน ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านพักบริเวณชั้น 2 เนื่องจากชินชาต่อสภาวะน้ำท่วมขังที่เกิดเหตุซ้ำซากในพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่า 20 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยเฝ้าสังเกตการณ์ และพร้อมให้การช่วยเหลือ หากมีสภาวะฝนตกลงมาซ้ำ และมีมวลน้ำป่าไหลลงมาสมทบก็พร้อมที่จะอพยพประชาชนไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวได้ทันท่วงที