ตรัง - 3 ตำบลในเขต อ.เมืองตรัง ยังคงท่วมหนัก เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำสองฝั่งแม่น้ำตรัง ล่าสุด ในเขตเทศบาลตำบลนาตาล่วง ระดับน้ำเพิ่มสูงอีก 50 ซม. และบางจุดสูงเกือบ 6 เมตร หนักที่สุดในรอบ 40 ปี
วันนี้ (8 ธ.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ตรัง เริ่มคลี่คลายลงใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.รัษฎา อ.ย่านตาขาว อ.นาโยง และ อ.ปะเหลียน แต่ในอีก 4 อำเภอ ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เมือง อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ และ อ.กันตัง เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำสองฝั่งแม่น้ำตรัง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมือง ยังคงวิกฤตในพื้นที่ 3 ตำบลคือ ต.นาตาล่วง ต.บางรัก และ ต.หนองตรุด
ทั้งนี้ ที่บ้านป่าหมาก และบ้านทุ่งตำเสา ในเขตเทศบาลตำบลนาตาล่วง อ.เมืองตรัง ยังคงมีน้ำที่ท่วมสูงจนมิดหลังคาบ้านรวม 45 หลัง และยังมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร หรือบางจุดมีระดับน้ำลึกเกือบ 6 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2518 หรือหนักที่สุดในรอบ 40 ปี ถือว่าเป็นวิกฤตสำหรับผู้คน รวมทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่ยังตกค้างอยู่บนพนังกั้นน้ำ รวมพื้นที่ที่ได้รับกระทบในเขตเทศบาลตำบลนาตาล่วง ทั้งหมด 4 หมู่บ้าน 550 หลังคาเรือน
ขณะที่ นางนิพจน์ หนูเรือง อายุ 47 ปีอยู่บ้านเลขที่ 75/4 หมู่ที่ 4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ได้เร่งอพยพฝูงวัวพื้นเมือง จำนวน 50 ตัว ออกจากพื้นที่หลังถูกน้ำท่วมอย่างหนัก แต่มีลูกวัวเกิดใหม่อายุ 10 วัน ได้ถูกกระแสน้ำพัดหายไป จำนวน 4 ตัว รวมทั้งยังประสบปัญหาขาดแคลนหญ้าแห้งด้วย ซึ่งล่าสุด สำนักงานปศุสัตว์ จ.ตรัง ได้นำหญ้าแห้งออกแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวแล้วในหลายพื้นที่
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง สรุปตัวเลขผู้ประสบภัยน้ำท่วมรวม 8 อำเภอ 59 ตำบล 391 หมู่บ้าน 13,093 หลังคาเรือน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 42,000 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดแจ้ง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางรัก กว่า 100 ครัวเรือน เกือบ 300 คน ที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูง 3-5 เมตร จำเป็นต้องขนย้ายสิ่งของ เครื่องนอน หรือเสื้อผ้าที่พอจะติดตัวมาได้ก่อนถูกน้ำเข้าท่วมอย่างหนักในรอบหลายปี เพื่อเข้าพักอาศัยหลับนอนชั่วคราวภายในวัดแห่งนี้ โดยที่ส่วนราชการได้นำเต็นท์มากั้นกันลมกันฝนให้พอได้อยู่ ซึ่งทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชราต้องอยู่รวมๆ กันด้วยความจำเป็น
นายสายัณห์ สุขสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.บางรัก กล่าวว่า ชาวบ้านผู้ประสบภัยได้อพยพมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงมาก บางหลังจมมิดหลังคา นับว่าหนักที่สุดในรอบหลายปี และจนถึงขณะนี้เป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่ระดับน้ำกลับไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด คงต้องพักอาศัยที่วัดแจ้งแห่งนี้ไปก่อนสักระยะ จนกว่าน้ำจะลดระดับลง
ส่วนการช่วยเหลือตอนนี้ก็ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ยารักษาโรค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ หากไม่เพียงพอก็จะมีการรายงานไปยังจังหวัด และพร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ทุกคนก็ปกติดี เพียงแต่ยังย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านตัวเองไม่ได้เท่านั้น และคาดว่าหากฝนไม่ตกซ้ำอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก็น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้
สำหรับพื้นที่ ม.5 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ถือเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากอยู่ในที่ลุ่มใกล้แม่น้ำตรัง ทำให้ยากต่อการแก้ไข และชาวบ้านก็ต้องยอมรับชะตากรรมไป โดยบางคนถูกน้ำท่วมทรัพย์สินเสียหายเกือบทั้งหมด จนเหลือแค่เสื้อผ้าแค่ 2-3 ชุดเท่านั้น
ด้าน นายประเสริฐ นุ่นสงค์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288 ม.5 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง กล่าวว่า ก่อนที่น้ำจะท่วมตน และครอบครัวได้ช่วยกันขนย้ายสิ่งของขึ้นไปยังชั้น 3 ของบ้านหมดแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่รอด เนื่องจากน้ำจำนวนมากได้ถาโถมเข้าท่วมบ้านสูงมาก จนทำให้ข้าวของเสียหายทั้งหมด และนำออกมาได้เพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรเช่นกัน เพราะน้ำมาเร็ว และรุนแรงกว่าหลายปีที่ผ่านมา