ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอของคาบสมุทรสทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งถูกน้ำในทะเลสาบสงขลาหนุน จนท่วมหนักสุดในรอบ 6 ปี ประชาชนริมทะเลสาบเดือดร้อนหนัก รวมทั้งเส้นทางเชื่อมต่อ 4 อำเภอ ถูกน้ำท่วมหลายจุด โรงเรียนปิดแล้ว 48 แห่ง ทางจังหวัดต้องตั้งศูนย์รับมือขึ้นโดยเฉพาะ
วันนี้ (6 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวยังคงรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอของคาบสมุทรสทิงพระ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และ อ.สิงหนคร ซึ่งถูกน้ำในทะเลสาบสงขลาหนุนเข้าท่วม และสถานการณ์รุนแรงที่สุดรอบ 6 ปี นับตั้งแต่เกิดเหตุพายุดีเปรสชันพัดถล่ม เมื่อปี 2553
ล่าสุด มีน้ำท่วมขังบ้านเรือนของชาวบ้าน และพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้ริมทะเลสาบสงขลา ในระยะ 1 กิโลเมตร ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากน้ำท่วมสูง บางจุดต้องใช้เรือในการเข้าออกเพราะเส้นทางถูกตัดขาด แต่ระดับน้ำเริ่มนิ่ง และลดลงอย่างช้าๆ โดยในพื้นที่ อ.ระโนด หนักที่สุด 12 ตำบล อ.สทิงพระ 11 ตำบล อ.สิงหนคร 11 ตำบล และ อ.กระแสสินธุ์ 4 ตำบล
ทางด้าน พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง ผู้กำกับการทางหลวง 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า จากการบินสำรวจทางหลวงหมายเลข 408 ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อทั้ง 4 อำเภอ มีน้ำท่วมหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ระโนด เช่น ที่สี่แยกรับแพรก ที่ตำบลระวะ และที่ตำบลปากแตระ การสัญจรค่อนข้างลำบาก
ขณะที่ นายสันติ แสงระวี ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 เปิดเผยว่า ในพื้นที่ 4 อำเภอของคาบสมุทรสทิงพระ มีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและวาตภัย จึงได้สั่งหยุดเรียนเป็นทางการแล้ว 48 โรงเรียน ประกอบด้วย อ.ระโนด 29 แห่ง อ.สทิงพระ 11 แห่ง อ.กระแสสินธ์ 6 แห่ง และ อ.สิงหนคร 1 แห่ง มีนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการจัดการเรียนการสอนประมาณ 5,760 คน
จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์อุทกภัยส่วนหน้าขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอระโนด เพื่อรับผิดชอบพื้นที่ 4 อำเภอในคาบสมุทรสทิงพระโดยเฉพะ และล่าสุด ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 ได้ส่งเรือท้องแบนเพื่อลำเลียงเครื่องยังชีพเข้าช่วยเหลือประชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ว เพราะคาดว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้ออีกหลายวัน