สุราษฎร์ธานี - เกิดเหตุคลื่นสูงกว่า 5 เมตร พัดถล่มเรือลากจูงเรือโป๊ะล่มกลางทะเลบริเวณหลังเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทีมกู้ภัยเกาะเต่าเข้าช่วยเหลือได้ 5 ราย สูญหายไปกลางทะเล 3 ราย รวมทั้งเด็กอายุ 1 ขวบเศษ
วานนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเรือกู้ชีพออกช่วยเหลือลูกเรือลากจูงเรือโป๊ะ ที่ถูกคลื่นสูงกว่า 5 เมตร พัดถล่มกำลังจะจมลงที่บริเวณกลางทะเล รอยต่อระหว่างเกาะเต่า และเขตจังหวัดชุมพร ขณะเกิดเหตุมีคนอยู่บนเรือ จำนวน 5 คน และ มีผู้สูญหายจมไปในทะเล จำนวน 3 ราย เป็น พ่อ แม่ และลูกวัย 1 ขวบเศษ
ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และคลื่นสูงกว่า 5 เมตร จนกระทั่งเมื่อเวลา 22.00 น.ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นจากเรือที่กำลังจะจมได้ 5 คน ประกอบด้วย ด.ญ.ดาว ชาวพม่า อายุ 3 ขวบ ด.ช.ศุภชัย มีเมือง อายุ 2 เดือน ด.ญ.สุรีรัตน์ มีเมือง อายุ 3 ขวบ นางรัชนี ศรีมะโน อายุ 43 ปี และนางไข่ อายุ 32 ปี จึงรีบนำผู้บาดเจ็บเข้าฝั่งเนื่องจากทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย อ่อนเพลีย และบาดเจ็บเนื่องจากถูกคลื่นในทะเลซัดเป็นเวลานาน
จากการตรวจในเบื้องต้น ทราบเรือที่ถูกคลื่นซัดจมเป็นเรือลากจูงของบริษัทโชคหิรัญ ได้ลากจูงโป๊ะบรรทุกไม้สัก จำนวน 6 ลำ ออกจากท่าเรือปากน้ำตาปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีคนอยู่บนเรือ จำนวน 8 คน มุ่งหน้าสู่ท่าเรือบางปะกง แต่ขณะเรือวิ่งผ่านบริเวณดังกล่าวเจอคลื่นสูง กัปตันเรือพยายามนำเรือเข้าหลบคลื่นลมที่ด้านหลังเกาะเต่า แต่ไปไม่ถึงถูกคลื่นพัดกระหน่ำจนจมลงเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และสูญหายดังกล่าว หลังเกิดเหตุ นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานไปยังกองทัพเรือภาค 2 ออกดำเนินการค้นหาผู้สูญหายในวันนี้ต่อไป ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้ถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะเต่าแล้ว
วานนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเรือกู้ชีพออกช่วยเหลือลูกเรือลากจูงเรือโป๊ะ ที่ถูกคลื่นสูงกว่า 5 เมตร พัดถล่มกำลังจะจมลงที่บริเวณกลางทะเล รอยต่อระหว่างเกาะเต่า และเขตจังหวัดชุมพร ขณะเกิดเหตุมีคนอยู่บนเรือ จำนวน 5 คน และ มีผู้สูญหายจมไปในทะเล จำนวน 3 ราย เป็น พ่อ แม่ และลูกวัย 1 ขวบเศษ
ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และคลื่นสูงกว่า 5 เมตร จนกระทั่งเมื่อเวลา 22.00 น.ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นจากเรือที่กำลังจะจมได้ 5 คน ประกอบด้วย ด.ญ.ดาว ชาวพม่า อายุ 3 ขวบ ด.ช.ศุภชัย มีเมือง อายุ 2 เดือน ด.ญ.สุรีรัตน์ มีเมือง อายุ 3 ขวบ นางรัชนี ศรีมะโน อายุ 43 ปี และนางไข่ อายุ 32 ปี จึงรีบนำผู้บาดเจ็บเข้าฝั่งเนื่องจากทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย อ่อนเพลีย และบาดเจ็บเนื่องจากถูกคลื่นในทะเลซัดเป็นเวลานาน
จากการตรวจในเบื้องต้น ทราบเรือที่ถูกคลื่นซัดจมเป็นเรือลากจูงของบริษัทโชคหิรัญ ได้ลากจูงโป๊ะบรรทุกไม้สัก จำนวน 6 ลำ ออกจากท่าเรือปากน้ำตาปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีคนอยู่บนเรือ จำนวน 8 คน มุ่งหน้าสู่ท่าเรือบางปะกง แต่ขณะเรือวิ่งผ่านบริเวณดังกล่าวเจอคลื่นสูง กัปตันเรือพยายามนำเรือเข้าหลบคลื่นลมที่ด้านหลังเกาะเต่า แต่ไปไม่ถึงถูกคลื่นพัดกระหน่ำจนจมลงเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และสูญหายดังกล่าว หลังเกิดเหตุ นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานไปยังกองทัพเรือภาค 2 ออกดำเนินการค้นหาผู้สูญหายในวันนี้ต่อไป ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้ถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะเต่าแล้ว