ยะลา - คืบหน้าเหตุวิสามัญผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงที่ ต.เกะรอ อ.รามัน เจ้าหน้าที่พบเอกสารลับในตัวผู้เสียชีวิต มีการวางแผนเตรียมก่อเหตุใหญ่ช่วงเดือนธันวาคม
วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลังเพื่อเข้าติดตามคนร้ายที่มีหมายจับในคดีความมั่นคง โดยภายหลังจากที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.เกะรอ อ.รามัน ได้แจ้งข้อมูลให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านแอแกง ม.5 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้นในพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง และเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มคนร้าย ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อคือ 1.นายมะซูปิยัน ยะกูมอ 2.นายบูคอรี หะมะ พร้อมอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ย.59 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ได้มีรายงานจากหน่วยข่าวที่เกาะติดสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งว่า จากการเข้าเคลียร์พื้นที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่เข้าไปหลังเกิดเหตุวิสามัญ ซึ่งจากการตรวจสอบในตัวผู้เสียชีวิตพบเอกสารลับเขียนด้วยมือเป็นภาษายาวีในตัวของ นายมะสูเพียน ยะคูมอ แกนนำ RKK จึงส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษายาวีแปลความหมายออกมา
โดยมีข้อความที่แปลได้ว่า “หมายเลข 21 ต่อเนื่องข้อ 1 ได้เตรียมการแล้ว ข้อ 2 วันที่ 28 เดือน 11 หมายถึงเดือนธันวาคม 2559 เวลา 04.00 น.ช่วงเช้า วันจันทร์ ให้กองกำลังกอเหตุ โดยเฉพาะถนนสายหลัก ข้อ 2.1 วันที่ 18 เดือนธันวาคม 2559 ให้กองกำลังเน้นก่อเหตุในเมืองใหญ่ เวลา 19.12 น.ให้วางระเบิดทุกอำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงนอกเมือง บริเวณ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ต่อมา วันที่ 25 เดือนธันวาคม 2559 ให้กองกำลังระเบิดเสาไฟฟ้าใหญ่ จำนวน 6 ต้น แต่ในข้อความไม้ได้ระบุชัดว่าตรงจุดไหน ต่อมา วันที่ 31 เดือนธันวาคม 2559 ให้กองกำลังตีฐาน และระเบิดเสาไฟฟ้า”
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อความที่ได้จากเอกสารดังกล่าวเชื่อว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบเตรียมจะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในวันดังกล่าวจะเป็นวันปีใหม่ ทางหน่วยข่าวกรองได้แจ้งให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการสูญเสีย โดยเฉพาะฐานที่มั่นย่านชุมชน เป้าหมายอ่อนแอ ชุมชนไทยพุทธ ซึ่งขณะนี้ได้นำเอกสารส่งไปพิสูจน์ลายนิ้วมือเพื่อหาที่มาของเอกสารแล้ว
ส่วนเหตุที่ได้มีชาวบ้านซึ่งอ้างตัวเป็นญาติของผู้เสียชีวิต พยายามฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เพื่อจะเข้าไปขอดูศพ แต่เจ้าหน้าที่ปิดกั้นไว้จนมีปากเสียงกัน ก่อนที่ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 และ พ.อ.สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เข้ามาเจรจา และบอกว่าได้นำศพผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาลรามันแล้ว ชาวบ้านจึงยอมสลายตัว แต่ก็มีเสียงหญิงสาวในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า “อย่าลืมโทร.มานะ เยียวยาด้วย” ซึ่งตามหลักทางราชการ ทั้ง 2 คนเป็นผู้ต้อหาตามหมายจับในคดีความมั่นคงจำนวนหลายหมาย ซึ่งเคยก่อเหตุมาหลายครั้ง จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยา