สุราษฎร์ธานี - เสือปลาดุ! กัดชาวบ้านบาดเจ็บ 1 ราย ในซอยโรงฆ่าสัตว์ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี คาดเป็นเสือที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงไว้ ขณะที่การไล่ล่าเสือโคร่งที่ อ.คีรีรัฐนิคม เจ้าหน้าที่ยังดำเนินการต่อ พบเมื่อคืนเข้าไปกัดกินไก่ของชาวบ้าน ทำผวาไม่กล้ากรีดยาง
สำหรับการติดตามตรวจสอบกรณีชาวบ้านพบเสือโคร่งเข้ามาหากินใกล้หมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา กลางหมู่บ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3-6 บ้านแสงอรุณ ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมากจนไม่กล้าที่จะออกไปกรีดยาง ล่าสุด ช่วงหัวค่ำวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ทนายนภดล จิตรเที่ยง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน นายสมบัติ ไสยะหุต หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 19 คีรีรัฐนิคม นายสุจินต์ นาคบำรุง กำนัน ต.บ้านทำเนียบ ได้จัดกำลังกว่า 300 นาย ออกดูแล และลาดตระเวนป้องกันเหตุในพื้นที่ 9 หมู่บ้านของตำบลทำเนียบ เพื่อป้องกันเหตุร้ายจากเสือโคร่งที่ชาวบ้านพบเห็น
จนกระทั่งเมื่อเวลา 21.30 น. วันเดียวกัน นายสุจินต์ นาคบำรุง กำนัน ต.บ้านทำเนียบได้รับแจ้งจาก นายวัชรา ดีทองราช ชาวบ้านสะพานยาว ม.4 ตำบลทำเนียบ ว่า มีเสือโคร่งขนาดใหญ่จะเข้าไปกัดกินไก่ในเล้าที่อยู่ข้างบ้าน ขอให้ส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบว่าเสือตัวดังกล่าวได้หลบหนีไปแล้ว ทิ้งไว้แต่รอยเท้าอยู่บนถนนภายในหมู่บ้าน
นายวัชรา ที่อยู่ในอาการหวาดกลัว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงไก่กว่า 100 ตัว ที่เลี้ยงไว้ในเล้าส่งเสียงร้องดังมาก จึงเปิดประออกไปดู พบดวงตาของเสือกระทบแสงไฟเป็นสีเขียวตนตกใจยืนจ้องมองอยู่ประมาณเกือบ 1 นาที ดวงตาคู่นั้นได้หันกลับ และวิ่งผ่านมาทางหลังครัวมองเห็นตัว และสีของเสือได้อย่างชัดเจน จึงยืนยันได้ว่าเป็นเสือโคร่งขนาดใหญ่สูงประมาณ 80 เซนติเมตร
ด้าน นายสุจินต์ กำนันตำบลทำเนียบ กล่าวว่า จุดนี้ห่างจากจุดที่พบรอยเท้าเสือจากจุดแรกมา 10 กว่ากิโลเมตร ซึ่งคาดว่าเสือได้ออกหากินเป็นวงกว้างในลักษณะเกือบจะเป็นวงกลม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้แกะรอยติดตามว่าเสือตัวนี้ต่อไป ซึ่งอาจจะกลับเข้าไปยังจุดเดิมที่พบรอยเท้าในพื้นที่หมู่ที่ 6 หรืออาจจะเดินกลับเข้าป่าต้นน้ำป่าน้ำราด ที่อยู่ห่างไปประมาณ 7 กิโลเมตร
ขณะที่เมื่อกลางดึกคืนเดียวกัน (17 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ซอยโรงฆ่าสัตว์เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ถูกเสือกัดเข้าที่บริเวณแขน และขาได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงรอยคราบเลือดจากการถูกเสือกัดที่บริเวณประตูห้องเก็บของเก่า และบริเวณรอบๆ จุดเกิดเหตุมีของเก่าจำพวกเหล็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า และขยะรีไซเคิลจำนวนมาก โดยอยู่ติดกับสวนกล้วยหอมทองของชาวบ้านซึ่งเป็นที่ลุ่ม และมีน้ำแฉะอยู่ใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า เสือตัวดังกล่าวน่าเป็นเสือปลา ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับแมว มีผู้ลักลอบเลี้ยงไว้ในละแวกนั้น เคยมีคนพบเห็นอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ เพราะเสือปลา เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทสัตว์ป่าเลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกเสือขนาดเล็ก จัดเป็นแมวป่าขนาดกลาง มีความยาวตั้งแต่หัวถึงลำตัว 70-90เซนติเมตร หางสั้น 20-30 เซนติเมตร น้ำหนัก 7-11 กิโลกรัม ขนาดของเสือปลาอาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของอาหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ออกติดตามค้นหานำตัวปล่อยกับคืนสู่ป่าต่อไป
สำหรับการติดตามตรวจสอบกรณีชาวบ้านพบเสือโคร่งเข้ามาหากินใกล้หมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา กลางหมู่บ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3-6 บ้านแสงอรุณ ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมากจนไม่กล้าที่จะออกไปกรีดยาง ล่าสุด ช่วงหัวค่ำวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ทนายนภดล จิตรเที่ยง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน นายสมบัติ ไสยะหุต หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 19 คีรีรัฐนิคม นายสุจินต์ นาคบำรุง กำนัน ต.บ้านทำเนียบ ได้จัดกำลังกว่า 300 นาย ออกดูแล และลาดตระเวนป้องกันเหตุในพื้นที่ 9 หมู่บ้านของตำบลทำเนียบ เพื่อป้องกันเหตุร้ายจากเสือโคร่งที่ชาวบ้านพบเห็น
จนกระทั่งเมื่อเวลา 21.30 น. วันเดียวกัน นายสุจินต์ นาคบำรุง กำนัน ต.บ้านทำเนียบได้รับแจ้งจาก นายวัชรา ดีทองราช ชาวบ้านสะพานยาว ม.4 ตำบลทำเนียบ ว่า มีเสือโคร่งขนาดใหญ่จะเข้าไปกัดกินไก่ในเล้าที่อยู่ข้างบ้าน ขอให้ส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบว่าเสือตัวดังกล่าวได้หลบหนีไปแล้ว ทิ้งไว้แต่รอยเท้าอยู่บนถนนภายในหมู่บ้าน
นายวัชรา ที่อยู่ในอาการหวาดกลัว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงไก่กว่า 100 ตัว ที่เลี้ยงไว้ในเล้าส่งเสียงร้องดังมาก จึงเปิดประออกไปดู พบดวงตาของเสือกระทบแสงไฟเป็นสีเขียวตนตกใจยืนจ้องมองอยู่ประมาณเกือบ 1 นาที ดวงตาคู่นั้นได้หันกลับ และวิ่งผ่านมาทางหลังครัวมองเห็นตัว และสีของเสือได้อย่างชัดเจน จึงยืนยันได้ว่าเป็นเสือโคร่งขนาดใหญ่สูงประมาณ 80 เซนติเมตร
ด้าน นายสุจินต์ กำนันตำบลทำเนียบ กล่าวว่า จุดนี้ห่างจากจุดที่พบรอยเท้าเสือจากจุดแรกมา 10 กว่ากิโลเมตร ซึ่งคาดว่าเสือได้ออกหากินเป็นวงกว้างในลักษณะเกือบจะเป็นวงกลม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้แกะรอยติดตามว่าเสือตัวนี้ต่อไป ซึ่งอาจจะกลับเข้าไปยังจุดเดิมที่พบรอยเท้าในพื้นที่หมู่ที่ 6 หรืออาจจะเดินกลับเข้าป่าต้นน้ำป่าน้ำราด ที่อยู่ห่างไปประมาณ 7 กิโลเมตร
ขณะที่เมื่อกลางดึกคืนเดียวกัน (17 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ซอยโรงฆ่าสัตว์เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ถูกเสือกัดเข้าที่บริเวณแขน และขาได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงรอยคราบเลือดจากการถูกเสือกัดที่บริเวณประตูห้องเก็บของเก่า และบริเวณรอบๆ จุดเกิดเหตุมีของเก่าจำพวกเหล็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า และขยะรีไซเคิลจำนวนมาก โดยอยู่ติดกับสวนกล้วยหอมทองของชาวบ้านซึ่งเป็นที่ลุ่ม และมีน้ำแฉะอยู่ใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า เสือตัวดังกล่าวน่าเป็นเสือปลา ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับแมว มีผู้ลักลอบเลี้ยงไว้ในละแวกนั้น เคยมีคนพบเห็นอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ เพราะเสือปลา เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทสัตว์ป่าเลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกเสือขนาดเล็ก จัดเป็นแมวป่าขนาดกลาง มีความยาวตั้งแต่หัวถึงลำตัว 70-90เซนติเมตร หางสั้น 20-30 เซนติเมตร น้ำหนัก 7-11 กิโลกรัม ขนาดของเสือปลาอาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของอาหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ออกติดตามค้นหานำตัวปล่อยกับคืนสู่ป่าต่อไป