นครศรีธรรมราช - “พล.ต.อ.ศรีวราห์” รอง ผบ.ตร. คุมตัว “อับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ” ผู้ต้องหามือระเบิดในพื้นที่ จ.ตรัง ส่งฟ้องศาลทหารบกที่ 43 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ แล้ววันนี้ โดยผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสำนวนความคืบหน้าในคดีลอบวางระเบิด และวางเพลิงห้างเทสโก้โลตัส สาขานครศรีธรรมราช พบว่า มีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะข้อมูลหลักฐานที่เชื่อมโยงกับคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายฮากีม ดอเลาะห์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ
ขณะเดียวกัน ได้ตรวจสอบการกวาดล้างอาวุธปืน วัตถุระเบิดของ จ.นครศรีธรรมราช ตามข้อสั่งการพบว่า ได้มีการปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มผู้ที่มีอิทธิพลในท้องถิ่น สามารถตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น ปืนยาวรวม 49 กระบอก เครื่องกระสุนชนิดต่างๆ อีก 624 นัด
วันเดียวกัน ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 43 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีลอบวางระเบิดห้างลีมาร์ทซุปเปอร์ค้าส่ง ท้องที่ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง โดยมีผู้ต้องหาคือ นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ ซึ่งได้ถูกจับกุม และถูกคุมตัวอยู่ที่เรือนจำทุ่งสง
ซึ่งล่าสุดนั้น พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนเห็นควรสั่งฟ้อง นายอับอุลกอเดร์ สาแล๊ะ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้นำสำนวนคดีพร้อมผู้ต้องหาในคดีนี้ ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 43 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันถึงพยานหลักฐาน
ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า การส่งฟ้องผู้ต้องหารายนี้ให้แก่พนักงานอัยการ เนื่องจากสรุปสำนวนเสร็จ และใกล้ครบกำหนดฝากขัง โดยขณะนี้อยู่ในผลัดที่ 6 หลังจากส่งฟ้องในคดีที่ จ.ตรัง แล้วนั้น ลำดับต่อไปจะเป็น จ.ภูเก็ต และได้เร่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนเร่งรัดการดำเนินการใน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นลำดับถัดไป
โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีคนตายก่อน และยืนยันว่าคดีมีความคืบหน้าอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ จึงยังไม่มีความพอใจมากนัก ยังไม่สามารถเชื่อมโยงไปที่ตัวผู้บงการได้ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่า เครือข่ายผู้ก่อเหตุต้องการอะไรจากการก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาในคดีเดียวกันที่เหลือนั้นยังไม่ได้ตัว แต่เจ้าหน้าที่ได้ส่งฟ้องไปก่อนโดยไม่มีผู้ต้องหา และหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการส่งฟ้องในส่วนของ จ.ภูเก็ต และ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นลำดับถัดไป