ตรัง - โรงพยาบาลสิเกา จ.ตรัง นำโครงการศึกษาวิจัย และพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาใช้จนสามารถแก้ปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ได้สำเร็จ แถมยังใช้งบน้อยดูแลระบบง่าย
วันนี้ (14 พ.ย.) นพ.วิชัย สว่างวัน ผอ.โรงพยาบาลสิเกา จ.ตรัง และ ผศ.ดร.จิโรจน์ พีระเกียรติขจร อดีตผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมการปรับปรุงบำบัดน้ำเสียโรงพยาบาลสิเกา ตามแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีธรรมชาติช่วยธรรมชาติของมูลนิธิชัยพัฒนา และโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ผศ.ดร.จิโรจน์ พีระเกียรติขจร นักวิชาการ ผู้ซึ่งนำโครงการดังกล่าวเข้ามาปรับปรุงบำบัดน้ำเสียโรงพยาบาลสิเกา เป็นโรงพยาบาลต้นแบบของ จ.ตรัง กล่าวว่า เป็นไปตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ หลังจากพระองค์ได้ไปเยือนต่างประเทศ และทรงตรัสว่า ที่ต่างประเทศเขาใช้หญ้าสำหรับการบำบัดน้ำเสีย เอาน้ำเสียราดไปที่หญ้า ก็จะทำให้น้ำดีขึ้น จึงได้รับสั่งให้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ไปทดลองทำโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย เนื่องในพระราชดำริที่ จ.เพชรบุรี
จากนั้น ได้มอบหมายให้ ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว เป็นผู้อำนวยการโครงการ ก่อนที่จะขยายผลนำเอาองค์ความรู้ต่างๆ ไปใช้ รวมทั้งที่โรงพยาบาลสิเกา ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการบำบัดน้ำเสียเช่นกัน เพราะระบบเดิมที่ใช้ก่อนหน้านี้ต้องใช้งบประมาณสูงมาก แต่หลังจากนำพืชในท้องถิ่นอย่างเตยหอม ซึ่งแต่ละต้นมีรากมากถึง 43% รวมทั้งหาง่ายในภาคใต้ และมีคุณสมบัติเหมือนกับการใช้ผักตบชวา ทำให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นหลักการใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย และราคาถูก ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปก็ทำได้
นพ.วิชัย สว่างวัน ผอ.โรงพยาบาลสิเกา กล่าวว่า โรงพยาบาลสิเกา ได้ทำการศึกษาโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย เนื่องในพระราชดำริ และนำมาใช้จนย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว ทำให้น้ำที่ปล่อยได้มาตรฐานทุกครั้ง อีกทั้งการดูแลระบบก็ง่ายมาก ใช้คนที่ไม่ต้องมีองค์ความรู้เยอะ และมีค่าใช้จ่ายน้อย จึงอยากให้หลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะโรงพยาบาลชุมชน ได้นำระบบบำบัดน้ำเสียดังกล่าวไปใช้ ขณะที่โรงพยาบาลสิเกาเอง ก็พร้อมจะเปิดให้ผู้ที่สนใจมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากโครงการนี้อย่างเต็มที่