ยะลา - คืบหน้าหญิงอาวุโสชายแดนใต้ 21 คน ถูกทางการมาเลเซียจับกุม หลังเดินทางไปทำงานโดยไม่ขออนุญาต ในขณะที่ญาติเผยต้องเสียเงินค่าวิ่งเต้นรายละ 5 หมื่นบาท แลกต่อการปล่อยตัว แต่หลังจากจ่ายเงินกลับยังไร้วี่แวว
วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอมร ชุมช่วย ปลัดอาวุโสอำเภอยะหา จ.ยะลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 22 หมู่ 8 บ้านเจาะกลาดี ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านบุตรสาวของ นางฮามิด๊ะ สาและ วัย 57 ปี ที่ถูกนายหน้าชวนไปทำงานในรัฐยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย พร้อมกับเพื่อนบ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา รวม 21 คน ก่อนที่จะหายตัวไป และยังไม่ทราบชะตากรรม
นายอมร ชุมช่วย ปลัดอาวุโสอำเภอยะหา ได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา นางฮามิด๊ะ สาและ พร้อมกับเพื่อนบ้านในพื้นที่ อ.กาบัง จ.ยะลา และชาว จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา รวม 21 คน ได้เดินทางไปยังรัฐยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย โดยนายหน้าบอกว่า จะพาทำงานขายข้าวเกรียบปลา ซึ่งหลังจากเดินทางไปทำงานก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งล่าสุดทราบว่า ชาวบ้านทั้ง 21 คน ซึ่งเป็นหญิงชรา รวมทั้งนายหน้าอีก 2 คน รวมเป็น 23 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียควบคุมตัวเอาไว้
นายอมร ชุมช่วย ปลัดอาวุโสอำเภอยะหา เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้ประสานกำนัน และชาวบ้านในพื้นที่ อ.กาบัง จ.ยะลา โดยเบื้องต้นของ จ.ยะลา มีชาวบ้านในพื้นที่ อ.กาบัง รวม 5 คน ที่เดินทางไปทำงานกับนายหน้ารายนี้ โดยไปขายข้าวเกรียบปลา และได้ถูกตำรวจมาเลเซียจับกุมในข้อหาไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน ซึ่งล่าสุด ได้ประสานไปยังสถานทูตไทยในมาเลเซียแล้วว่า ให้ตรวจสอบว่าชาวบ้านทั้งหมดขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด รวมทั้งตรวจสอบว่า ออกจากประเทศไทยทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแห่งใด
แต่อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายของมาเลเซีย เมื่อมีการจับกุมเช่นนี้ก็จะมีกระบวนการตรวจสอบของทางการมาเลเซีย ในระยะหนึ่ง อาจจะ 1 เดือน หรือ 3 เดือน ซึ่งแล้วแต่ความผิด จากนั้นทางมาเลเซียก็จะประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าหญิงชราทั้ง 21 คน ที่ถูกจับกุมก็จะถูกส่งตัวกลับหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการของทางมาเลเซีย
ด้าน นายต่วนฮาซัน ดอเลาะ ญาติของ นางฮามิด๊ะ สาและ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุก็มีญาติคนหนึ่งบอกว่า สามารถช่วยเหลือประสานกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ของประเทศมาเลเซียได้ แต่ขอค่าดำเนินการเป็นเงิน จำนวน 5 หมื่นบาท ทางบุตรสาว และญาติๆ จึงให้เงินไป 5 หมื่นบาท ก็นำเงินไปเพื่อวิ่งเต้นฝ่ายมาเลเซียจริง แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้ ตนได้ประสานไปยังผู้ที่พาชาวบ้านไป
แต่หลังจากส่งรายชื่อชาวบ้านที่ถูกจับกุมไป ปรากฏว่า ไม่มีรายชื่อดังกล่าว เนื่องจากยังหาไม่พบ เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ฝ่ายญาติต้องการคืนเงิน ส่วนอีก 2 หมื่น ที่จ่ายไปเป็นค่ารถระหว่างดำเนินการ รวมเงินที่จ่ายไปเป็น จำนวน 7 หมื่นบาท เนื่องจากบ้านนี้พ่อกำลังป่วยหนัก จึงต้องการให้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ส่วนอีก 4 คน ที่ถูกจับกุม ทางญาติก็ต้องการให้ช่วยเหลือเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ที่รับจะช่วยเหลือก็เรียกเงินอีกครอบครัวละ 5 หมื่นบาท โดยอ้างว่า ต้องการนำเงินไปให้แก่ผู้ใหญ่ในมาเลเซีย เพื่อดำเนินการปล่อยทั้ง 5 คน แต่ถ้าดำเนินการไม่สำเร็จฝ่ายผู้ประสานบอกว่าจะคืนเงินให้ แต่จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 3 อาทิตย์แล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
มีรายงานเบื้องต้น ทราบว่า หญิงชราทั้ง 21 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา รวมทั้งนายหน้าอีก 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย จับกุม หลังจากเข้าไปขายข้าวเกรียบปลา ในรัฐยะโฮร์บารู โดยไม่ได้ขออนุญาตทำงาน ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานสงเคราะห์คนชรา รัฐยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย
