ชุมพร/สุราษฎร์ธานี - เจ้าของธุรกิจรีสอร์ต สร้างประติมากรรมทรายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงงาน เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมชุมพร ขณะที่กำแพงพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ นักศึกษา มรส. และประชาชนร่วมใจวาดเพื่อพ่อเปิดให้ชมแล้ว ด้านหนุ่มช่างซ่อมเครื่องยนต์ ปั่นจักรยานลุยเดี่ยววันละ 250 กิโลเมตร มุ่งมั่นกราบพระบรมศพ
นายสุรินทร์ เหล่าพัทรเกษม เจ้าของธุรกิจที่พักชื่อ ตามสบายรีสอร์ท ถนนเพชรเกษม ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ร่วมกันประดิษฐ์ประติมากรรมทราย พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ขนาดความสูง 299 ซม. กว้าง 199 ซม.ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารทำงานภายในรีสอร์ตของตนเอง โดยประติมากรรมทรายดังกล่าวได้ถูกรังสรรค์ปั้นแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยฝีมือของ นายสุรินทร์ เอง ที่ต้องการให้ประติมากรรมทรายชิ้นนี้ได้ตั้งตระหง่านเพื่อจารึกความทรงจำของตนเอง ที่ได้เกิดใต้ร่มบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙
นายสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตระกูลของตนเองพ่อแม่เป็นคนจีนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอาศัยแผ่นดินไทย ทำมาหากินจนก่อร่างสร้างตัวมาได้ขนาดนี้ และภาคภูมิใจอย่างมากเมื่อตระกูลตนเองได้รับสัญชาติเป็นคนไทย ครอบครัวเรารู้จักบุญคุณคน บุญคุณแผ่นดิน และตนเองก็ได้เกิดมาในรัชกาลที่ ๙ จึงต้องบำเพ็ญตนให้เกิดประโยชน์ให้แก่สังคมเท่าที่จะทำให้ เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของแผ่นดิน กว่า 10 ปีที่ผ่านมา จังหวัดชุมพร ประสบอุทกภัยอยู่เป็นประจำทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้ง และแต่ละครั้งได้สร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก จนมาวันหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงของคนไทยได้มีพระเนตรพระกรรณ ในปี พ.ศ.2541 ทรงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากให้แก่ตัวเมืองชุมพร โดยมีโครงการพระราชดำริฯ แก้มลิงหนองใหญ่ และขุดคลองหัววัง-พนังตัก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “คลองในหลวง” ในพื้นที่ตำบลบางลึก อ.เมืองชุมพร เพื่อระบายลงสู่ทะเล จนถึงวันนี้เป็นเวลา 18 ปีแล้ว น้ำไม่เคยท่วมในตัวเมืองชุมพรอีกเลย จนพสกนิกรชาวชุมพรกล่าวขานว่า “ด้วยพระเมตตาบารมี ชุมพรวันนี้สุขร่มเย็น”
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า นี่คือที่มาที่ไปของประติมากรรมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ตนเองต้องการทำขึ้น เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และก่อนที่ตนเองจะลงมือทำประติมากรรมชิ้นนี้ ตนต้องกราบไหว้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อที่จะทำการก่อประติมากรรมทราย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้บรรลุความตั้งใจ
ขณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้(3 พ.ย.) ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ที่กำแพง ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี หลังนักศึกษา อาจารย์ และชาวเมืองคนดี ร่วมใจกันวาดภาพพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ความยาว 70 เมตร ตามที่นักศึกษาสาขาจิตรกรรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) ร่วมกับเพื่อนนักศึกษา อาจารย์ และชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกันวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจเสด็จเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานีหลายครั้ง โดยกลุ่มนักศึกษาได้ตั้งใจวาดภาพมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม จนถึงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ภาพวาดดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ โดยในเวลาดังกล่าว นักศึกษา และคณะครูอาจารย์ พร้อมทั้งประชาชนกว่า 500 คน ได้รวมตัวจุดเทียนแสดงความอาลัย พร้อมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมวาดภาพพ่อประกอบการบรรเลงเพลง โดย นายชัยวัฒน์ วรรณานนท์ จิตรกรเจ้าของรางวัลพระราชทานสิทธิธาดาทองคำเป็นผู้วาด ส่วนเพลงที่บรรเลงประกอบคื อเพลง “พระราชาของแผ่นดิน” โดยนักศึกษาสาขาดนตรีสากล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส.
นอกจากนี้ ยังมีการอ่านบทอาศิรวาท โดย ดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทยธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส. ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปวารณาตนว่าจะแต่งกลอนถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 99 บท ในเวลา 99 วัน และขณะนี้ได้ประพันธ์มาถึงบทที่ 22 แล้ว จากนั้นอธิการบดี มรส. กล่าวแสดงความอาลัย ก่อนที่ทุกคนจะร่วมกันจุดเทียน และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกันท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาในบางช่วง แต่ทุกคนพร้อมใจกันแสดงอาลัยแด่พ่อหลวงให้สมกับความเป็นคนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน เพื่อแสดงความจงรักภักดีที่พระองค์ท่านได้พระราชทานนาม “ราชภัฏ” ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน
และในขณะเดียวกัน นายสิทธิพร รุ่งระวี อายุ 25 ปี ช่างบริการ บริษัท อีซูซุสุราษฎร์ธานี จำกัด ปั่นจักรยานลุยเดี่ยวเพื่อไปถวายพระราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยออกเดินทางจากบริเวณหน้าบริษัทฯ มุ่งหน้าสู่สนามหลวง โดยมีหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน และประชาชนบริเวณใกล้เคียงร่วมส่งกำลังใจให้เดินทางถึงเป้าหมายด้วยความปลอดภัย
นายทธิพร กล่าวว่า ตั้งแต่ทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รู้สึกเสียใจมาก จึงได้มีความมุ่งมั่น และตั้งใจจะเดินทางไปสนามหลวงเพื่อแสดงความอาลัย และความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่าน โดยมีความตั้งใจว่าจะปั่นให้ได้ 250 กิโลเมตร ต่อวัน ใช้เวลาปั่นประมาณ 4 วัน ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร ไปถึงบริเวณสนามหลวง
นายสุรินทร์ เหล่าพัทรเกษม เจ้าของธุรกิจที่พักชื่อ ตามสบายรีสอร์ท ถนนเพชรเกษม ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ร่วมกันประดิษฐ์ประติมากรรมทราย พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ขนาดความสูง 299 ซม. กว้าง 199 ซม.ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารทำงานภายในรีสอร์ตของตนเอง โดยประติมากรรมทรายดังกล่าวได้ถูกรังสรรค์ปั้นแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยฝีมือของ นายสุรินทร์ เอง ที่ต้องการให้ประติมากรรมทรายชิ้นนี้ได้ตั้งตระหง่านเพื่อจารึกความทรงจำของตนเอง ที่ได้เกิดใต้ร่มบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙
นายสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตระกูลของตนเองพ่อแม่เป็นคนจีนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอาศัยแผ่นดินไทย ทำมาหากินจนก่อร่างสร้างตัวมาได้ขนาดนี้ และภาคภูมิใจอย่างมากเมื่อตระกูลตนเองได้รับสัญชาติเป็นคนไทย ครอบครัวเรารู้จักบุญคุณคน บุญคุณแผ่นดิน และตนเองก็ได้เกิดมาในรัชกาลที่ ๙ จึงต้องบำเพ็ญตนให้เกิดประโยชน์ให้แก่สังคมเท่าที่จะทำให้ เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของแผ่นดิน กว่า 10 ปีที่ผ่านมา จังหวัดชุมพร ประสบอุทกภัยอยู่เป็นประจำทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้ง และแต่ละครั้งได้สร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก จนมาวันหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงของคนไทยได้มีพระเนตรพระกรรณ ในปี พ.ศ.2541 ทรงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากให้แก่ตัวเมืองชุมพร โดยมีโครงการพระราชดำริฯ แก้มลิงหนองใหญ่ และขุดคลองหัววัง-พนังตัก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “คลองในหลวง” ในพื้นที่ตำบลบางลึก อ.เมืองชุมพร เพื่อระบายลงสู่ทะเล จนถึงวันนี้เป็นเวลา 18 ปีแล้ว น้ำไม่เคยท่วมในตัวเมืองชุมพรอีกเลย จนพสกนิกรชาวชุมพรกล่าวขานว่า “ด้วยพระเมตตาบารมี ชุมพรวันนี้สุขร่มเย็น”
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า นี่คือที่มาที่ไปของประติมากรรมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ตนเองต้องการทำขึ้น เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และก่อนที่ตนเองจะลงมือทำประติมากรรมชิ้นนี้ ตนต้องกราบไหว้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อที่จะทำการก่อประติมากรรมทราย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้บรรลุความตั้งใจ
ขณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้(3 พ.ย.) ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ที่กำแพง ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี หลังนักศึกษา อาจารย์ และชาวเมืองคนดี ร่วมใจกันวาดภาพพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ความยาว 70 เมตร ตามที่นักศึกษาสาขาจิตรกรรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) ร่วมกับเพื่อนนักศึกษา อาจารย์ และชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกันวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจเสด็จเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานีหลายครั้ง โดยกลุ่มนักศึกษาได้ตั้งใจวาดภาพมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม จนถึงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ภาพวาดดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ โดยในเวลาดังกล่าว นักศึกษา และคณะครูอาจารย์ พร้อมทั้งประชาชนกว่า 500 คน ได้รวมตัวจุดเทียนแสดงความอาลัย พร้อมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมวาดภาพพ่อประกอบการบรรเลงเพลง โดย นายชัยวัฒน์ วรรณานนท์ จิตรกรเจ้าของรางวัลพระราชทานสิทธิธาดาทองคำเป็นผู้วาด ส่วนเพลงที่บรรเลงประกอบคื อเพลง “พระราชาของแผ่นดิน” โดยนักศึกษาสาขาดนตรีสากล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส.
นอกจากนี้ ยังมีการอ่านบทอาศิรวาท โดย ดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทยธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส. ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปวารณาตนว่าจะแต่งกลอนถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 99 บท ในเวลา 99 วัน และขณะนี้ได้ประพันธ์มาถึงบทที่ 22 แล้ว จากนั้นอธิการบดี มรส. กล่าวแสดงความอาลัย ก่อนที่ทุกคนจะร่วมกันจุดเทียน และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกันท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาในบางช่วง แต่ทุกคนพร้อมใจกันแสดงอาลัยแด่พ่อหลวงให้สมกับความเป็นคนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน เพื่อแสดงความจงรักภักดีที่พระองค์ท่านได้พระราชทานนาม “ราชภัฏ” ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน
และในขณะเดียวกัน นายสิทธิพร รุ่งระวี อายุ 25 ปี ช่างบริการ บริษัท อีซูซุสุราษฎร์ธานี จำกัด ปั่นจักรยานลุยเดี่ยวเพื่อไปถวายพระราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยออกเดินทางจากบริเวณหน้าบริษัทฯ มุ่งหน้าสู่สนามหลวง โดยมีหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน และประชาชนบริเวณใกล้เคียงร่วมส่งกำลังใจให้เดินทางถึงเป้าหมายด้วยความปลอดภัย
นายทธิพร กล่าวว่า ตั้งแต่ทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รู้สึกเสียใจมาก จึงได้มีความมุ่งมั่น และตั้งใจจะเดินทางไปสนามหลวงเพื่อแสดงความอาลัย และความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่าน โดยมีความตั้งใจว่าจะปั่นให้ได้ 250 กิโลเมตร ต่อวัน ใช้เวลาปั่นประมาณ 4 วัน ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร ไปถึงบริเวณสนามหลวง