ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจป่าตอง สนธิกำลังระดมกำลังกวาดล้างป้องกันอาชญากรรมต้อนรับฤดูการท่องเที่ยว ย้ำต้องดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน รวมทั้งเฝ้าระวังการก่อการร้ายในพื้นที่อย่างเข้มงวดบนพื้นฐานของความไม่ประมาท
เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (26 ต.ค.) ที่ปากซอยบางลา ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างระหว่างวันที่ 25-30 ตุลาคมนี้ โดยมี พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธิ์ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอกะทู้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง นายบุญมา เอียบทรัพย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง เจ้าหน้าที่จากมลฑลทหารบกที่ 41 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง สภ.กะทู้ สภ.กมลา สภ.เชิงทะเล สภ.กะรน เจ้าหน้าที่ อส.ประมาณ 150 นายเข้าร่วม
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตราการด้านต่างๆ เพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึง อาจจะทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมต่างๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน และปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ สำหรับมาตรการที่สำคัญคือ การปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อแสดงถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด เสริมสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในการดูแลความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน
.
ขณะที่ พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า สืบเนื่องจากพื้นที่ภาค 8 พื้นที่ความรับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ในแต่ละจังหวัดหวัดมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตำรวจภูธรภาค 8 มีมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในหลายด้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยว ได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 7 จังหวัด ให้มีมาตรการในการคุ้มครองดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทั้งด้านอาชญากรรม ด้านอุบัติเหตุ และด้านอื่นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวพึงพอใจ เมื่อเดินทางมาแล้วจะต้องกลับมาท่องเที่ยวอีก ที่ผ่านมา การดูแลความปลอดภัยก็อยู่ในระดับน่าพึงพอใจ สามารถดูแลนักท่องเที่ยวได้ดี ซึ่งเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
รอง ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษคือ ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะพีพี จ.กระบี่ ปัญหาที่กังวลมาที่สุดคือ ปัญหาการก่อการร้าย ปัญหามิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในครบนักท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจตรา และตรวจค้นพื้นที่เป้าอย่างอย่างจริงจัง และจะต้องมีการเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มงวด ปัญหาเรื่องการก่อการร้าย และปัญหาอาชญากรรม รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนถือเป็นเรื่องหลักที่จะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด
ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และประชาชนถือเป็นเรื่องหลักที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ซึ่งการดูแลนักท่องเที่ยวจะต้องเข้มงวดในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน เรื่องการถูกเอารัดเอาเปรียบ เรื่องการทำร้ายร่างกาย รวมไปถึงเรื่องการกระทำความผิดของนักท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแลอย่างเข้มงวดแล้วในส่วนของประชาชนก็มีส่วนร่วมด้วย ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และมีความตื่นตัวโดยเฉพาะเรื่องของการก่อวินาศภัยที่มีการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็มีการบูรณาการความร่วมทางด้านการข่าวเพื่อเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด แม้ว่าด้านการข่าวจะไม่มีการเคลื่อนไหว แต่เราก็จะไม่ประมาทเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของภูเก็ต
เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (26 ต.ค.) ที่ปากซอยบางลา ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างระหว่างวันที่ 25-30 ตุลาคมนี้ โดยมี พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธิ์ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอกะทู้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง นายบุญมา เอียบทรัพย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง เจ้าหน้าที่จากมลฑลทหารบกที่ 41 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง สภ.กะทู้ สภ.กมลา สภ.เชิงทะเล สภ.กะรน เจ้าหน้าที่ อส.ประมาณ 150 นายเข้าร่วม
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตราการด้านต่างๆ เพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึง อาจจะทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมต่างๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน และปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ สำหรับมาตรการที่สำคัญคือ การปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อแสดงถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด เสริมสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในการดูแลความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน
.
ขณะที่ พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า สืบเนื่องจากพื้นที่ภาค 8 พื้นที่ความรับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ในแต่ละจังหวัดหวัดมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตำรวจภูธรภาค 8 มีมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในหลายด้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยว ได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 7 จังหวัด ให้มีมาตรการในการคุ้มครองดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทั้งด้านอาชญากรรม ด้านอุบัติเหตุ และด้านอื่นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวพึงพอใจ เมื่อเดินทางมาแล้วจะต้องกลับมาท่องเที่ยวอีก ที่ผ่านมา การดูแลความปลอดภัยก็อยู่ในระดับน่าพึงพอใจ สามารถดูแลนักท่องเที่ยวได้ดี ซึ่งเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
รอง ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษคือ ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะพีพี จ.กระบี่ ปัญหาที่กังวลมาที่สุดคือ ปัญหาการก่อการร้าย ปัญหามิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในครบนักท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจตรา และตรวจค้นพื้นที่เป้าอย่างอย่างจริงจัง และจะต้องมีการเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มงวด ปัญหาเรื่องการก่อการร้าย และปัญหาอาชญากรรม รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนถือเป็นเรื่องหลักที่จะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด
ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และประชาชนถือเป็นเรื่องหลักที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ซึ่งการดูแลนักท่องเที่ยวจะต้องเข้มงวดในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน เรื่องการถูกเอารัดเอาเปรียบ เรื่องการทำร้ายร่างกาย รวมไปถึงเรื่องการกระทำความผิดของนักท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแลอย่างเข้มงวดแล้วในส่วนของประชาชนก็มีส่วนร่วมด้วย ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และมีความตื่นตัวโดยเฉพาะเรื่องของการก่อวินาศภัยที่มีการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็มีการบูรณาการความร่วมทางด้านการข่าวเพื่อเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด แม้ว่าด้านการข่าวจะไม่มีการเคลื่อนไหว แต่เราก็จะไม่ประมาทเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของภูเก็ต
