สุราษฎร์ธานี - ชาวอำเภอพระแสง จ.สุราษฎร์ธานี รวมตัวบูรณะรถแทรกเตอร์พระราชทานที่เป็น 1 เดียวในประเทศ พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่ายที่พระองค์เสด็จเยือนราษฎรในพื้นที่อำเภอพระแสง ถึง 4 ครั้ง เพื่อแสดงความอาลัย และระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวพระแสงจนมีถนนใช้ทุกวันนี้
วันนี้ (23 ต.ค.) ที่อนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทาน ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายสุราษฎร์ธานี-กระบี่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านในอำเภอพระแสง ได้ร่วมกันทำความสะอาดตัวรถแทรกเตอร์เพื่อทาสีใหม่ และตกแต่งสถานที่ให้สวยสง่างาม พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่ายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยือนราษฎรในพื้นที่อำเภอพระแสง ถึง 4 ครั้ง และพระราชทานรถแทรกเตอร์คันดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2511 โดยเครื่องบินซีนุ๊ก ลำเลียงแทรกเตอร์พระราชทานมาทางอากาศ เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีถนนในการใช้สัญจร ชาวบ้านใช้การเดินทางทางน้ำเป็นหลัก
นายประมวล พันธุ อายุ 65 ปี ข้าราชการบำนาญ อดีตท้องถิ่น อ.ชัยบุรี ผู้ซึ่งได้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถึง 4 ครั้ง กล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจ ว่า พระองค์ท่านเสด็จพื้นที่ อ.พระแสง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2511 ทรงเห็นความยากลำบากของพื้นที่ อ.พระแสง ที่ไม่มีถนน การเดินทางมีเพียงทางน้ำอย่างเดียว และเป็นพื้นที่สีแดง ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2511 ท่านเสด็จอีกครั้ง พร้อมพระราชทานรถแทรกเตอร์ทางเครื่องบินซีนุ๊กของทหารในสมัยนั้น เพื่อใช้บุกเบิกเส้นทางทำถนน ทำให้ อ.พระแสง มีถนนใช้จนถึงทุกวันนี้ สร้างความปลาบปลื้มแก่ชาวพระแสงเป็นอย่างมาก
ด้านนายพิจิตร ศรีทองสม ประธานชมรมรถจักรยานถีบอำเภอพระแสง กล่าวว่า ได้นำสมาชิกมาบูรณะอนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทานโดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในการสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่ายพระองค์ท่านที่เสด็จมาในพื้นที่ เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีพระเมตตาต่อประชาชนในพื้นที่ที่พระราชทานรถแทรกเตอร์คันนี้มา ทำให้ อ.พระแสง มีถนนหนทางใช้จนถึงทุกวันนี้ พร้อมกันนี้ ชาวบ้านต่างนำคำสั่งสอนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินชีวิตตลอดมา
สำหรับพื้นที่ อ.พระแสง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมาถึง 4 ครั้งด้วยกัน คือ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2511 ครั้งที่ 2 พระราชทานรถแทรกเตอร์เมื่อ 4 ต.ค.2511 ครั้งที่ 3 วันที่ 27 ก.ย.2515 และครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2516 ซึ่งชาวบ้านเตรียมจัดพิธีระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวพระแสง ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
วันนี้ (23 ต.ค.) ที่อนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทาน ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายสุราษฎร์ธานี-กระบี่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านในอำเภอพระแสง ได้ร่วมกันทำความสะอาดตัวรถแทรกเตอร์เพื่อทาสีใหม่ และตกแต่งสถานที่ให้สวยสง่างาม พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่ายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยือนราษฎรในพื้นที่อำเภอพระแสง ถึง 4 ครั้ง และพระราชทานรถแทรกเตอร์คันดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2511 โดยเครื่องบินซีนุ๊ก ลำเลียงแทรกเตอร์พระราชทานมาทางอากาศ เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีถนนในการใช้สัญจร ชาวบ้านใช้การเดินทางทางน้ำเป็นหลัก
นายประมวล พันธุ อายุ 65 ปี ข้าราชการบำนาญ อดีตท้องถิ่น อ.ชัยบุรี ผู้ซึ่งได้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถึง 4 ครั้ง กล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจ ว่า พระองค์ท่านเสด็จพื้นที่ อ.พระแสง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2511 ทรงเห็นความยากลำบากของพื้นที่ อ.พระแสง ที่ไม่มีถนน การเดินทางมีเพียงทางน้ำอย่างเดียว และเป็นพื้นที่สีแดง ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2511 ท่านเสด็จอีกครั้ง พร้อมพระราชทานรถแทรกเตอร์ทางเครื่องบินซีนุ๊กของทหารในสมัยนั้น เพื่อใช้บุกเบิกเส้นทางทำถนน ทำให้ อ.พระแสง มีถนนใช้จนถึงทุกวันนี้ สร้างความปลาบปลื้มแก่ชาวพระแสงเป็นอย่างมาก
ด้านนายพิจิตร ศรีทองสม ประธานชมรมรถจักรยานถีบอำเภอพระแสง กล่าวว่า ได้นำสมาชิกมาบูรณะอนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทานโดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในการสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่ายพระองค์ท่านที่เสด็จมาในพื้นที่ เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีพระเมตตาต่อประชาชนในพื้นที่ที่พระราชทานรถแทรกเตอร์คันนี้มา ทำให้ อ.พระแสง มีถนนหนทางใช้จนถึงทุกวันนี้ พร้อมกันนี้ ชาวบ้านต่างนำคำสั่งสอนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินชีวิตตลอดมา
สำหรับพื้นที่ อ.พระแสง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมาถึง 4 ครั้งด้วยกัน คือ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2511 ครั้งที่ 2 พระราชทานรถแทรกเตอร์เมื่อ 4 ต.ค.2511 ครั้งที่ 3 วันที่ 27 ก.ย.2515 และครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2516 ซึ่งชาวบ้านเตรียมจัดพิธีระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวพระแสง ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
