ศูนย์ข่าวภูเก็ต- รอง ผบ.ตร.ยันหลักฐานแน่นดำเนินคดีได้แน่นอนหนึ่งในผู้ต้องหาลอบวางระเบิดในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต 2 พยานชี้ตัวมัด ด้านผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน นำตัว นายมูฮัมหมัด มูฮิ อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี หนึ่งในผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกจับกุมตามหมายจับศาลทหาร มทบ.41 ที่ จ.13/2559 ลง 29 ก.ย.59 และหมายจับที่ จ.15/2559 ลง 13 ต.ค.59 ในความผิดฐานร่วมกันมีหรือใช้วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันพยายามวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และเป็นอั้งยี่ ซึ่งเกิดเหตุที่ตลาดพาราไดซ์ และตลาดไชน่าทาวน์ ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้พยานชี้ตัว อย่างไรก็ตาม ในการนำตัวผู้ต้องหามาในครั้งนี้ เมื่อมาถึง สภ.เมืองภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องสำหรับชี้ตัวผู้ต้องหาทันที โดยมีพยานร่วมชี้ตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ซึ่งเป็นพยานที่ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากพยานชี้ตัวเสร็จ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารสามารถจับกุมนายมูฮัมหมัด ได้ในพื้นที่ ศชต.เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัวไว้สอบปากคำ และนำตัวส่งให้ตำรวจในวันนี้ ซึ่งในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ในชั้นสอบสวนในชั้นสอบสวนของทหารให้การรับสารภาพ ส่วนการชี้ตัวของพยาน จำนวน 2 คน ในวันนี้ พยานสามารถชี้ตัวยืนยันได้อย่างถูกต้อง หลังจากนี้ จะต้องนำตัวไปฝากขังเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และสรุปสำนวนส่งอัยการทหาร ซึ่งมั่นใจว่าจากพยานหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่สามารถดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
สำหรับคดีลอบวางระเบิดที่จังหวัดภูเก็ต จากการสืบสวน ทราบว่า ผู้ที่รวมก่อเหตุมีประมาณ 4 ราย ขณะนี้ได้ขอออกหมายจับไปแล้ว 2 ราย คือ นายอาหามะ เลงฮะ และนายมูฮัมหมัด มูฮิ ซึ่งถูกจับกุมตัวโดยทหาร และส่งตัวให้ตำรวจวันนี้ ส่วนนายอาหามะ เลงฮะ ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ขณะที่ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนทั้ง 7 จังหวัดที่มีการลอบวางระเบิดนั้นได้มีการขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับแล้ว 10 ราย จนถึงขณะนี้จับกุมแล้ว 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธ ส่วนการขอออกหมายจับเพิ่มนั้นถ้าการสอบสวนมีพยานหลักฐานก็จะก็อนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มต่อไป ซึ่งวันนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต จะยื่นขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มอีกหนึ่งราย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดคดีลอบวางระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน หลังจากนี้ จะต้องเพิ่มความเข้มในการทำงานให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม และในส่วนของการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมได้เพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนเรื่องของการเฝ้าระวังในพื้นที่ต่างๆ กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีนั้นไม่ได้ระวังเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งแต่เฝ้าระวังทุกจุดทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำหรับการนำผู้ต้องหารายดังกล่าวมาให้พยานชี้ตัวชี้ตัวยืนยัน ทางตำรวจเตรียมแผนที่จะนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากในชั้นสอบสวนของทางทหารผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ในชั้นสอบสวนของตำรวจภูเก็ต ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงต้องยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางกลับไปฝากขังต่อศาลทหาร ที่ค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน นำตัว นายมูฮัมหมัด มูฮิ อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี หนึ่งในผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกจับกุมตามหมายจับศาลทหาร มทบ.41 ที่ จ.13/2559 ลง 29 ก.ย.59 และหมายจับที่ จ.15/2559 ลง 13 ต.ค.59 ในความผิดฐานร่วมกันมีหรือใช้วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันพยายามวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และเป็นอั้งยี่ ซึ่งเกิดเหตุที่ตลาดพาราไดซ์ และตลาดไชน่าทาวน์ ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้พยานชี้ตัว อย่างไรก็ตาม ในการนำตัวผู้ต้องหามาในครั้งนี้ เมื่อมาถึง สภ.เมืองภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องสำหรับชี้ตัวผู้ต้องหาทันที โดยมีพยานร่วมชี้ตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ซึ่งเป็นพยานที่ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากพยานชี้ตัวเสร็จ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารสามารถจับกุมนายมูฮัมหมัด ได้ในพื้นที่ ศชต.เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัวไว้สอบปากคำ และนำตัวส่งให้ตำรวจในวันนี้ ซึ่งในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ในชั้นสอบสวนในชั้นสอบสวนของทหารให้การรับสารภาพ ส่วนการชี้ตัวของพยาน จำนวน 2 คน ในวันนี้ พยานสามารถชี้ตัวยืนยันได้อย่างถูกต้อง หลังจากนี้ จะต้องนำตัวไปฝากขังเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และสรุปสำนวนส่งอัยการทหาร ซึ่งมั่นใจว่าจากพยานหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่สามารถดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
สำหรับคดีลอบวางระเบิดที่จังหวัดภูเก็ต จากการสืบสวน ทราบว่า ผู้ที่รวมก่อเหตุมีประมาณ 4 ราย ขณะนี้ได้ขอออกหมายจับไปแล้ว 2 ราย คือ นายอาหามะ เลงฮะ และนายมูฮัมหมัด มูฮิ ซึ่งถูกจับกุมตัวโดยทหาร และส่งตัวให้ตำรวจวันนี้ ส่วนนายอาหามะ เลงฮะ ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ขณะที่ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนทั้ง 7 จังหวัดที่มีการลอบวางระเบิดนั้นได้มีการขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับแล้ว 10 ราย จนถึงขณะนี้จับกุมแล้ว 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธ ส่วนการขอออกหมายจับเพิ่มนั้นถ้าการสอบสวนมีพยานหลักฐานก็จะก็อนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มต่อไป ซึ่งวันนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต จะยื่นขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มอีกหนึ่งราย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดคดีลอบวางระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน หลังจากนี้ จะต้องเพิ่มความเข้มในการทำงานให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม และในส่วนของการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมได้เพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนเรื่องของการเฝ้าระวังในพื้นที่ต่างๆ กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีนั้นไม่ได้ระวังเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งแต่เฝ้าระวังทุกจุดทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำหรับการนำผู้ต้องหารายดังกล่าวมาให้พยานชี้ตัวชี้ตัวยืนยัน ทางตำรวจเตรียมแผนที่จะนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากในชั้นสอบสวนของทางทหารผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ในชั้นสอบสวนของตำรวจภูเก็ต ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงต้องยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางกลับไปฝากขังต่อศาลทหาร ที่ค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป
