พัทลุง - สถานการณ์ไฟไหม้ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จนท.คุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถดับได้ หวั่นกระแสลมกระโชกแรงในช่วงสาย เล็งดึงกำลัง จนท.เข้าช่วยเสริมในการดับไฟ
วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนขี้เสี้ยน ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ยังไม่สามารถดับได้ เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวัง และเข้าดับไฟป่าพรุที่ไหม้เป็นวันที่ 5 อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเช้าในวันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าพัทลุง เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และเจ้าหน้าที่ปกครองควนขนุน เร่งลงพื้นที่เพื่อเข้าดับไฟกันตั้งแต่เช้า
โดยเฉพาะจุดรอยต่อป่าเสม็ดผืนใหญ่ของพื้นที่ป่าพรุควนขี้เสียน ที่อยู่ไปทางทิศตะวันตกของจุดที่เกิดไฟลุกไหม้ และพื้นที่ด้านใต้ของจุดที่ไฟกำลังลุกไหม้ เพราะ 2 จุดดังกล่าวมีนกน้ำประจำถิ่น และนกอพยพกำลังทำรังวางไข่เป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเร่งป้องกันเพราะหวั่นพื้นที่จะสูญเสียระบบนิเวศได้ ซึ่งการดับไฟในช่วงเช้าถือว่าค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง แต่เกรงว่าในช่วงสายจะมีลมกระโชกแรงจนอาจทำให้ไฟลุกลามขึ้นมาได้ เพราะสภาพพื้นที่ป่าพรุยังแห้งแล้ง ฝนไม่ตกลงมานานหลายวัน
นายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ไฟได้ไหม้ป่าพรุได้รับความเสียหายไปแล้วเกือบ 1,000 ไร่ แม้เจ้าหน้าที่จะควบคุมไฟป่าให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากพื้นที่แห้งแล้งมานาน และกำลังเจ้าหน้าที่มีจำกัดในการดับไฟ จึงได้ขอกำลังจากสำนักอนุรักษ์ที่ 6 สงขลา เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าสงขลา เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่ายะลา เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าปัตตานี และเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่านราธิวาส เข้ามาเสริม และช่วยในการดับไฟแล้วในวันนี้
ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ป่าพรุนั้นเกิดจากการแอบเผาหญ้าของชาวบ้านเพื่อให้ควายได้กินหญ้าอ่อน หลังเกิดไฟลุกไหม้จนลุกลามเข้าป่าเสม็ดของพื้นที่ป่าพรุ เบื้องต้น ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เผาไปแล้ว 1 ราย พื้นที่ได้รับความเสียหาย 320 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่ไฟลุกไหม้อยู่ขณะนี้นั้นยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อคนที่แอบเข้าไปเผาต่อไป
