ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบ เพื่ออุทิศผลบุญแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับกันทุกครั้งทุกวัด ขณะที่ประเพณีถือศีลกินผักเริ่มแล้ว วันแรกมีประชาชนรับอาหารโรงเจ และอ๊ามคึกคัก
วันนี้ (1 ต.ค.) บรรยากาศการร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบ หรือวันทำบุญส่งตายายที่จังหวัดภูเก็ต เป็นไปด้วยความคึกคัก ตามวัดต่างๆ มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก โดยที่วัดขจรรังสรรค์ (วัดเหนือ) เขตเทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้มีประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ นำอาหารคาว และอาหารหวานชนิดต่างๆ รวมทั้งขนมลา ขนมเทียน ขนมต้ม และข้าวพอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่มีความหมายในงานบุญเดือนสิบ มาถวายแด่พระภิกษุ เพื่ออุทิศผลบุญกุศลแก่ปูย่า ตายาย และบรรพบุรุษของตนที่ล่วงลับไปแล้วจำนวนมาก
สำหรับภายในวัดดังกล่าวได้จัดให้มีการสร้างหุ่นเปรตจำลองในรูปแบบต่างๆ แสดงไว้ในหลายๆ จุด ด้วยเพื่อแสดงให้ประชาชน รวมทั้งเด็ก และเยาวชนได้เห็น และศึกษาเรียนรู้เรื่องของการสร้างคุณงามความดี และเพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชน เด็ก และเยาวชน ตระหนักในการทำความดีมากขึ้น และบริเวณด้านหน้าเปรตแต่ละตัวมีโต๊ะตั้งไว้เพื่อเป็นร้านเปรต และเป็นพื้นที่สำหรับให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมทำบุญได้นำขนมพอง ขนมลา ขนมดีซำ ขนมต้ม ขนมเทียน หรืออาหารแห้งอื่นๆ ไปวางรวมกันไว้บนร้านเปรต นอกจากนี้ ยังมีร้านเปรตสำหรับวางเสื้อผ้าที่ลูกหลานนำมาวางไว้เพื่อร่วมในพิธีชิงเปรตด้วย
สำหรับการจัดทำหุ่นจำลองเปรตครั้งนี้ ทางวัดขจรรังสรรค์ ทำขึ้นเพื่อต้องการสอนให้เด็ก และเยาวชนรู้จักความดี ความชั่ว รู้จักบาปบุญคุณโทษ และให้ละเว้นการกระทำที่เป็นบาป เพราะตามความเชื่อของชาวพุทธแล้วเชื่อว่า คนที่ทำชั่วมากๆ เมื่อตายไปจะกลายเป็นเปรตชดใช้กรรมหลายภพหลายชาติกว่าจะได้ไปเกิด และคอยขอส่วนบุญด้วยการปรากฏกายในร่างสูงใหญ่ และมีเสียงโหยหวนน่ากลัว สำหรับเปรตที่ทางวัดขจรรังสรรค์ ได้จัดสร้างขึ้นมาในครั้งนี้มีจำนวน 12 ตัว
กินเจวันแรกที่สุราษฎร์ธานีคึกคัก มีประชาชนออกมาร่วมจำนวนมาก ในขณะที่โรงทานแต่ละแห่งของมูลนิธิต่างๆ เน้นความสะอาดล้างผักด้วยด่างทับทิมก่อนนำมาปรุงอาหาร พร้อมรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกลดภาวะโลกร้อน
ที่จังหวัดพังงา ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รักประเพณีไทยที่ชาวใต้สืบทอดกันมายาวนานร่วมแต่งกายชุดไทย ผ้าลายดอกลูกไม้ ซึ่งเป็นผ้าท้องถิ่นของบรรพบุรุษประจำภาคใต้ของประเทศไทย เข้าวัดทำบุญวันสารทเดือนสิบ ที่วัดบางเนียง (ย่านแหล่องท่องเที่ยวเขาหลัก) อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ได้พาครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุไปทำบุญเนื่องในวันบุญเดือนสิบ ตามประเพณีของชาวพุทธ และเป็นประเพณีของชาวใต้ที่ได้ยึดถือกันว่า ในวันแรม 1 ค่ำเดือนสิบ เป็นวันที่ยมบาลเปิดนรก ปล่อยเปรตชนมาเยี่ยมลูกหลาน ซึ่งลูกหลานก็ทำบุญต้อนรับครั้งหนึ่ง และในวันแรม 15 ค่ำเดือนสิบ หรือเรียกว่าวันส่งเปรต เป็นวันที่เปรตชนต้องกลับยมโลก ลูกหลานก็จะทำบุญเลี้ยงส่งอีกครั้งหนึ่ง การทำบุญทั้ง 2 ครั้ง เป็นการทำบุญที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้ว
โดยลูกหลานได้อุทิศส่วนกุศลไปให้วิญญาณของบรรพบุรุษที่ตกอยู่ในเปรตภูมิ เป็นคติของศาสนาพราหมณ์ ที่ผสมในประเพณีของพุทธศาสนา โดยพุทธศาสนิกชนจะนิยมไปทำบุญ นำอาหารคาวหวาน และขนมไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เช่น ขนมเจาะหู ขนมลา และขนมเทียน มาถวายพระเพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมนั่งร้านในพิธีชิงเปรต เพื่อนำสิ่งของไปวางเพื่อให้เปรต หรือวิญญาณเร่ร่อนมารับส่วนบุญตามความเชื่อ ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญของพิธีชิงเปรต ที่ประชาชนจะได้รับส่วนบุญ และความสนุกสนาน
ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันแรกของเทศกาลถือศีลกินผัก ตามมูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี มูลนิธิมุธิตาจิตธรรมสถาน ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้มีการตั้งโรงทานจัดปรุงอาหารเจให้ประชาชนออกมาร่วมกินฟรี โดยทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิได้มีการจัดเตรียมข้าวสาร ผักต่างๆ จำนวนมาก โดยเน้นรักษาความสะอาดความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ซึ่งทางแม่ครัวได้ล้างผักด้วยน้ำด่างทับทิมที่ช่วยขจัดสารเคมีที่ปนเปื้อนมากับผัก พร้อมรณรงค์ไม่ใช้ถุงพลาสติกมาใส่อาหาร เพื่อเป็นการลดภาวะโลกร้อน ซึ่งมีประชาชนนุ่งขาวห่มขาวออกมาร่วมกินอาหารในโรงเจ พร้อมนำปิ่นโตมาใส่อาหารกลับไปกินที่บ้านกันเป็นจำนวนมาก และในค่ำวันนี้จะมีพิธีเดินธูปในวันแรกของการถือศีลกินผัก