นราธิวาส - กลุ่มโจรใต้ 10 คน บุกยิง อส.รปภ.โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 2 ก่อนฉวยอาวุธปืน 3 กระบอก หลบหนีลอยนวล
วันนี้ (29 ก.ย.) ร.ต.อ.ชนาวุฒิ ขวดใส รองสารวัตรสอบสวน สภ.มูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ปฏิบัติหน้าที่ รปภ.โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สะพานลอยหน้าโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง ม.2 ต.มูโน๊ะ จึงพร้อมด้วย นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.ท.ศกรรจ์ จันทร์แย้ม รอง ผกก.ป.สภ.มูโน๊ะ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย คือ อส.สุรินทร์ และสุข ถูกยิงที่ต้นขาซ้ายกระดูกหัก และ อส.มะรอสือดี ตาตูเล๊ะ ถูกยิงที่บริเวณบริเวณหัวไหล่ขวา อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก อย่างเร่งด่วน และที่บริเวณหน้ารั้วลวดหนามของบ้านเลขที่ 32/5 มีศพของ อส.อุสมาน รูเป๊ะ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ โดยถูกกระสุนปืนของคนร้ายพรุนไปทั้งร่าง
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่บนถนน จำนวน 4 จุดใหญ่ รวมกว่า 60 ปลอก และที่บริเวณฝาผนัง รวมทั้งกระจกของบ้านเลขที่ 32/5 ซึ่งเป็นบ้านของ นายฮามะรูดิง หามะ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูพรุน และกระจกแตก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่ อส.ทั้ง 3 นาย กำลังนั่งเก้าอี้พลาสติกหลบร้อนอยู่บริเวณใต้สะพานลอย หน้าโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง อยู่นั้น ได้มีคนร้าย จำนวน 10 คน แต่งกายด้วยผ้าคลุมผมแบบผู้หญิงอำพรางใบหน้า ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย. 5 คัน เป็นพาหนะ เมื่อถึงบริเวณที่ อส.นั่งพักเพื่อหลบร้อนอยู่นั้น คนร้ายได้จอดรถ จยย. ให้คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายซึ่งมีอาวุธปืนอาก้าคนละกระบอกกราดยิงใส่ อส.ทั้ง 3 นาย แบบไม่ให้ตั้งตัว จน อส.อุสมาน เสียชีวิตคาที่
ส่วน อส.สุรินทร์ และ อส.มะรอสือดี ได้ถืออาวุธปืนประจำกายหนีเข้าไปในบริเวณบ้านพักของ นายฮามะรูดิง แต่คนร้ายได้ถือปืนไล่ยิง ทำให้ อส.สุรินทร์ และ อส.มะรอสือดี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายล้มลงกับพื้น กลุ่มคนร้ายคิดว่าเสียชีวิตจึงได้พากันหยิบอาวุธปืนของ อส.ทั้ง 3 นาย ประกอบด้วย อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนอาก้า จำนวน 2 กระบอก วิ่งซ้อนท้ายรถ จยย.ที่เพื่อนจอดติดเครื่องรออยู่หลบหนีไป ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีเพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน
