xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินยันสำนวนการตรวจสอบสนามกีฬานครศรีฯ สรุปชี้มูลได้ในเร็วๆ นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยืนยันได้ติดตามสำนวนการตรวจสอบสนามกีฬากลางนครศรีธรรมราชแล้ว ระบุจะเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ยืนยันยังเป็นสนามที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ “ผู้จัดการออนไลน์” ได้ติดตามความไม่ปกติของการปรับปรุงสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช มาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดการตรวจสอบจากหลายภาคส่วนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งแม้ว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช จะใช้งบประมาณในการปรับปรุงรวมถึงกว่า 30 ล้านบาท และปลายปี 2557 ได้ใช้งบอีก 13.4 ล้านบาท รวมแล้วเกือบ 50 ล้านบาท ในการปรับปรุงสนามกีฬา แต่กลับอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก เฉพาะสนามฟุตบอล และลู่วิ่งยางโพลิเมอร์สภาพกลับสวนทางต่องบประมาณกว่า 13.4 ล้านบาท ที่ใช้ไป ซึ่งเป็นงบประมาณที่สามารถปรับปรุงให้เป็นสนามระดับมาตรฐานแข่งขันระดับชาติได้
 

 
สนามฟุตบอลเต็มไปด้วยดินลูกรังซึ่งผิดแบบตามมาตรฐานของการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 นครศรีธรรมราช เข้าทำการตรวจสอบ แต่ทว่า จนถึงขณะนี้เกือบ 2 ปี ยังไม่มีผลสรุปออกมาอย่างเป็นทางการ และสนามอยู่ในสภาพไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่ผู้ตรวจสอบยืนยันว่า ได้สรุปสำนวน และชี้มูลไปแล้วพร้อมทั้งพยานหลักฐานที่ชัดเจนแน่นหนาถึงความไม่ปกติของการใช้งบประมาณต่อสภาพสนามที่ไม่ได้คุณภาพ ตั้งแต่ต้นปี 2558 ซึ่งสำนวนมีไม่ถึง 100 หน้า และแสดงความกังวลถึงเรื่องที่หายไปในระบบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ท่ามกลางข้อครหาว่าการตรวจสอบการใช้งบประมาณในสนามกีฬาแห่งนี้กำลังกลายเป็นเรื่องเงียบหายไป และไม่สามารถเอาผิดต่อใครได้

ล่าสุด นายพิศิษฐ์ ลีลาวัชโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่าได้เร่งติดตามสำนวนการตรวจสอบสนามกีฬาแห่งนี้แล้ว โดยเรื่องอยู่ที่กองคดีของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และกำลังมีการตรวจทานสำนวนอย่างละเอียด จะสามารถสรุปชี้มูลได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ยืนยันว่าจะไม่เป็นเรื่องที่เงียบไป

ขณะที่ นายสนั่น ศิลารัตน์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช รักษาการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ยืนยันว่า สนามกีฬาแห่งนี้แม้ว่าเทศบาลจะโอนกรรมสิทธิ์กลับคืนมาให้ อบจ.นครศรีธรรมราช แล้ว แต่จนถึงขณะนี้กระบวนการตามกฎหมายยังไม่มีความสมบูรณ์ ดังนั้น ทั้งสนามฟุตบอล และลู่วิ่งยังคงออยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จนกว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จ ดังนั้น หากมีการดำเนินคดี หรือชี้มูลความผิดผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นผู้รับผิดชอบ
 


 

กำลังโหลดความคิดเห็น