ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ดร.ไพร พัฒโน” นายกเทศมนตรีนคร ส่งทนายเข้าแจ้งความหลังพบมีบุคคลนำภาพข่าว ขณะ ตร.บุกค้นบ้านพักนำไปบิดเบือน และเพิ่มเติมแชร์ต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์ไปในทางที่เสียหาย ยันแค่ถูกยึดอาวุธปืนไปตรวจสอบ ไม่ได้ยึดเงิน หรือทรัพย์อื่นๆ
วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทั้งเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปป. ตำรวจกองปราบ ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจทางหลวง ได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.สงขลา ตามยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันพุธที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
โดย 1 ใน 5 เป้าหมายที่เข้าตรวจค้น คือ บ้านพักของ ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตั้งอยู่ย่านสถานีขนส่งหาดใหญ่ พร้อมกับยึดเพียงอาวุธปืนพกสั้นจำนวนหนึ่งไปทำการตรวจสอบ และเป็นปืนถูกต้อง ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยความเรียบร้อย โดยทาง ดร.ไพร ก็ได้ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการดำเนินคดีใดๆ
แต่ปรากฏว่า ไม่ทันข้ามวันก็ได้มีการนำภาพข่าวที่ปรากฏทางสื่อมวลชนไปบิดเบือน และเพิ่มเติมแชร์ต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาพที่เจ้าหน้าที่ได้ยึดเงินสดจำนวนมหาศาล ทั้งใส่ในกระสอบ และวางเป็นก้อนๆ บนโต๊ะ ทำให้เข้าใจผิดว่า เป็นเงินที่ยึดได้จากบ้านของ ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่
จนเรื่องนี้ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ดร.ไพร ไปในทางที่เสียหาย ถึงที่มาของเงินดังกล่าว จนในช่วงเย็นของวันนี้ ดร.ไพร ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัวเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ให้สืบสวนต้นตอ และแหล่งที่มาของภาพ โดยเฉพาะผู้ที่บิดเบือนภาพให้ได้รับความเสียหาย
โดยทางทนายความได้แจ้งคำร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าพนักงานตำรวจทุกท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท หรือกระทำความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ทำให้ข้าพเจ้า (ดร.ไพร) ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดให้ได้รับโทษจนถึงที่สุด
นอกจากจะส่งทนายเข้าแจ้งความแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าไปตรวจค้นบ้านของ ดร.ไพร ก็ได้ส่งตัวแทนซึ่งเป็นตำรวจทางหลวง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ในข้อหาเดียวกันด้วย เพราะภาพที่ปรากฏออกไปทำให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นได้รับความเสียหายด้วย เนื่องจากไม่เป็นความจริง เพราะเพียงแค่ยึดอาวุธปืนไปตรวจสอบเท่านั้น ไม่ได้ยึดเงิน หรือทรัพย์อื่นๆ แต่อย่างใด
