ยึดคืน! ที่ ส.ป.ก.ชุมพรเกือบหมื่นไร่จากนายทุน หลังตรวจพบครอบครองไม่ชอบ

ชุมพร - จังหวัดชุมพร ตรวจพบมีบริษัทนายทุนใหญ่ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบเกือบหมื่นไร่ ประกาศยึดคืนภายใน 30 วัน หากตื้อแพ่งเตรียมรื้อถอนเองนำมาจัดสรรให้ประชาชนทำกินตามนโยบาย คสช.

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดชุมพร นายธนู มีแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามผลปฏิบัติการตามคำสั่ง คสช.ที่ 36/2559 เพื่อการยึดคืนพัฒนาและจัดสรรพื้นที่ ส.ป.ก.ที่มีการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยเข้าร่วมประชุมกับผู้มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 10 คน

ทั้งนี้ นายประกอบ ชมเชย ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดชุมพร ได้บรรยายสรุปผลดำเนินงานตามคำสั่งของ คสช.ดังกล่าวว่า ในส่วนของ จ.ชุมพร ได้ออกประกาศที่ 8/2559 ลงวันที่ 12 ก.ค.59 กำหนดพื้นที่เป้าหมายกับผู้ถือครองที่ดินในเขต ส.ป.ก. โดยมิชอบรวม 3 พื้นที่ ได้แก่แปลงที่ No 42 เนื้อที่ 635.75 ไร่ ตำบลวังใหม่ อ.เมืองชุมพร แปลงที่ No 8 เนื้อที่ 528 ไร่ ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว และแปลงที่ No 83 เนื้อที่ 6,415.13 ไร่ ตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ ซึ่งหลังการตรวจสอบได้ดำเนินการตามขั้นตอน และปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอ อบต. ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภายในกำหนดเวลา 15 วัน โดยมีผู้ครอบครองออกมาคัดค้าน จำนวน 24 ราย คือ แปลง No 42 จำนวน 1 ราย แปลง No 8 จำนวน 22 ราย แปลง No 83 จำนวน 1 ราย ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนแล้ว เห็นชอบให้ยึดคืน จำนวน 1 ราย ได้แก่แปลง No 83 เนื้อที่ 6,415.13 ไร่ ที่มีบริษัท สหไทย น้ำมันพืช จำกัด เป็นผู้ครอบครอง โดยบริษัทดังกล่าวได้อ้างเอกสารหลักฐานหนังสือการขออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่จากการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงได้มีหนังสือที่ ชพ 0011/2196 ลงวันที่ 31 ส.ค.59 แจ้งผลการพิจารณาคัดค้านส่งให้บริษัทดังกล่าวทราบแล้ว พร้อมกับสั่งให้รื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างสิ่งอื่นใดออกจากที่ดินภายในกำหนดเวลา 30 วัน หากยังฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการรื้อถอนเอง และจะต้องชดใช้ออกค่าใช่จ่ายทั้งหมด

ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น. นายธนู พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตำบลหงส์เจริญ อ.ท่าแซะ เพื่อตรวจสอบพื้นที่แปลง No 83 เนื้อที่ 6,415.13 ไร่ ที่บริษัท สหไทย น้ำมันพืช จำกัด ครอบครองโดยมิชอบ และได้แจ้งเป็นหนังสือให้ทราบแล้วเพื่อยึดคืนภายใน 30 วัน จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทยังมีคนงานทำงานกันอยู่ตามปกติ มีการปรับไถพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง และเพิ่งจะปลูกต้นกล้าปาล์มได้ใหม่ๆ นอกจากนั้น ยังพบว่ามีการจ้างช่างมาก่อสร้างต่อเติมอาคาร และปรับปรุงตกแต่งทาสีสำนักงานใหม่หลังใหญ่กว้างขวางกว่าเดิม รวมมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท พร้อมเครื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้ลายมุกราคาแพงที่เพิ่งจะสั่งนำเข้าจากต่างประเทศมาใช้ภายในอาคารสำนักงานดังกล่าวด้วย

นายธนู กล่าวว่า แม้ทางบริษัทจะยังเพิกเฉยไม่สนใจ และยังมีการลงทุนตกแต่งปรับปรุงอาคารสำนักงานและปลูกพืชผล คนยังงานมาทำงานตามปกติก็ถือว่าเป็นสิทธิของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา ซึ่งในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 นี้ จะครบกำหนด 30 วัน ถ้าทางบริษัทไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งอื่นใดออกจากพื้นที่ ส.ป.ก. ตนได้สั่งกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องประสานงานกับทหาร มทบ.44 และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามกฎหมายทันที เพื่อยึดคืนที่ดินกลับมาจัดสรรที่ทำกินให้แก่ประชาชนตามนโยบายของ คสช.ต่อไป