ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เชิญผู้นำศาสนาทั้ง 42 มัสยิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ชี้แจงสถานการณ์ความไม่สงบและช่วยกันเฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่อาจเข้ามาอาศัยหรือแฝงตัวในพื้นที่เพื่อก่อเหตุร้าย
วันนี้ (25 ส.ค.) หลังจากที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน และหลายพื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะเสี่ยงและมีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงเป็นห่วงที่สุด และทุกฝ่ายได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยสูงสุด
ล่าสุด พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และนายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาได้เชิญผู้นำศาสนา ทั้งอีหม่าม คอเตบ และบิหลั่น ประจำมัสยิดทั้ง 42 แห่งที่อยู่ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ทั้งหมด มาชี้แจงถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งล่าสุดเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ จ.ปัตตานี รวมทั้งเหตุวางระเบิดและเผาใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน
โดยขอความร่วมมือผู้นำศาสนาให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและป้องกันการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ช่วยกันตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยหรือบุคคลแปลกหน้า โดยเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นหรือเยาวชน ที่เข้ามาอาศัยหรือแฝงตัวอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของมัสยิดทั้ง 42 แห่ง เนื่องจากผู้นำศาสนาจะทราบเป็นอย่างดีถึงการเข้าออกของบุคคลต่างถิ่นที่เข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการป้องการเมืองไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุ นอกเหนือจากกำลังหลัก 4 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและอาสาสมัครภาคประชาชน ที่ทำงานหนักอยู่แล้ว แต่ยังมีช่องว่างอีกจำนวนมากที่อยู่นอกเหนือการดูแลของเจ้าหน้าที่ และต้องอาศัยทุกภาคส่วนเข้ามาดูแล
ด้าน นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ทางผู้นำศาสนาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยเมืองหาดใหญ่ โดยกำชับให้ผู้นำศาสนาและคณะกรรมการมัสยิดทุกแห่งที่อยู่ในตัวเมืองและพื้นที่รอบนอก เข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสบุคคลเป้าหมายที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากปฏิเสธและประณามการก่อเหตุรุนแรงมาโดยตลอด
