ปัตตานี - เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานี เผยคนร้ายขโมยรถยนต์ของศูนย์สุขภาพชุมชนปะกาฮะรัง นำซุกระเบิดก่อนใช้เป็นคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว จนพังยับเยิน ล่าสุด พบเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 36 ราย ในจำนวนนี้สาหัส 4 ราย ทรัพย์เสียหายเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณที่เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ หน้าโรงแรมเซาเทิร์นวิว เมื่อคืนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ด้านหน้าของโรงแรมฯ ทั้งแถบได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด บานประตู หน้าต่าง กระจกของโรงแรมได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ร้านค้า ร้านอาหารตามสั่ง ร้านอาบอบนวด ร้านคาราโอเกะในบริเวณหน้าโรงแรมที่เป็นตึกอาคารพาณิชย์ ได้รับความเสียหายทั้งคู่หา นอกจากนั้น ยังมีรถยนต์กระบะ รถเก๋ง ได้รับความเสียหายประมาณ 7 คัน และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายอีก 7 คัน
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ มีจำนวน 36 ราย โดยส่วนใหญ่แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ เพราะอาการไม่สาหัส แต่แพทย์ยังให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี อีก 16 ราย ซึ่งมี 4 ราย อาการสาหัส ต้องพักในห้องไอซียู ได้แก่ 1.น.ส.วิภาพร พงสำราญ อายุ 35 ปี 2.น.ส.สายบัว แก้วมณี อายุ 30 ปี 3.น.ส.นงนภัทร สุขสวัตน์ อายุ 30 ปี และ 4.นายคมสน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 58 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างร้านอาบอบนวด และร้านคาราโอเกะ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานี ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในถังแก๊สหุงต้มขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม จำนวนไม่ต่ำกว่า 2 ลูก พ่วงติดกัน มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 180 กิโลกรัม แล้วนำมาซุกไว้ในรถยนต์กระบะตอนเดียว สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 1381 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถของศูนย์สุขภาพชุมชนปะกาฮะรัง (รพ.สต.) จึงทำให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีต้องเร่งสืบหาความจริงจากผู้ดูแลรถยนต์คันดังกล่าว จำนวน 2 คน เพื่อเค้นความจริง หาที่มาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
โดยเบื้องต้น บุคคลทั้งสองให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า รถคันดังกล่าวได้นำมาจอดเพื่อรอให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่บริเวณใต้สะพาน ม.1 ต.ปะกาฮะรัง ไม่ได้เก็บไว้ที่ศูนย์สุขภาพชุมชนปะกาฮะรัง แต่อย่างใด เพราะไม่สะดวก และรถยนต์คันดังกล่าวก็จอดรอเป็นประจำทุกวันเพื่อเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อช่วงเวลา 3 ทุ่มเศษของเมื่อคืน รถยนต์ดังกล่าวก็ยังอยู่ จึงไม่ทราบว่าคนร้ายได้นำรถใช้ก่อเหตุระเบิดในช่วงเวลาใด แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าบุคคลทั้งสองไม่รู้ว่าคนร้ายนั้นเป็นใคร เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้งสองไปสอบสวนขยายผลกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และผู้เชี่ยวชาญระเบิดในพื้นที่ระบุถึงระเบิดในครั้งนี้ว่า นับเป็นเหตุคาร์บอมบ์ขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปี เหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และลูกระเบิดทำงานเกินกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ บงบอกถึงความชำนาญ และแม่นยำของการประกอบระเบิด ขนาดของเป้าหมาย และการโยกย้ายมายังเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ สามารถผ่านการแสกนตรวจจับของเจ้าหน้าที่ที่มีการตั้งด่านตรวจเข้มในห่วงเวลาที่ผ่านมา
นอกจากนั้น จากการเปิดเผยของทีมสืบสวนในพื้นที่มองว่า การลอบวางระเบิดในครั้งนี้เหมือนคนร้ายมุ่งที่จะทำลายตึก หรือโรงแรมเซาเทิร์นวิว มากกว่า จึงไม่แน่ใจว่าก่อนหน้านี้ ที่นี่เคยมีความขัดแย้งกับใครหรือไม่อย่างไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทิ้งประเด็นความไม่สงบในพื้นที่ที่สมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หรือผู้ที่มีความคิดต่าง เพื่อแสดงอนุภาพของกลุ่ม ก่อนที่จะมีการเปิดเวทีพูดคุยสันติสุขอีกครั้งภายในวันที่ 2 กันยายนนี้