รอง ผบ.ตร.ประชุมสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว บึ้มไม่กระทบต่างชาติยังมาภูเก็ต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ภูเก็ต ประชุมร่วมทุกฝ่าย รวมทั้งกงสุล 15 ประเทศ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวหลังเกิดบึ้มที่หาดป่าตอง ด้านผู้ประกอบการยืนยันท่องเที่ยวไม่ลด ต่างชาติยังเชื่อมั่นบินมาเที่ยวภูเก็ตปกติ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (19 ส.ค.) พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร.(ตท.) เป็นประธานการประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยมี นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.อิดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง ผบ.ช.ก. พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ผกก.ทุกสภ.ในพื้นที่ภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว กงสุล กงสุลกิตติมศักดิ์ 15 ประเทศ ตัวแทนจากมณฑลทหารบกที่ 41 ตัวแทนจากทัพเรือภาคที่ 3 นายสถิรพงศ์ ณ.ตะกั่วทุ่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ดร.กฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ น.ส.สุพัตรา จารุอริยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง ตัวแทน ททท.สำนักงานภูเก็ต ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกองกับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต

โดยทาง พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รายงานถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวภายหลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่หาดป่าตอง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้บูรณาการวางแผนกำหนดมาตรการการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว 4 ด้านหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวถึงความปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต 4 ด้านหลัก คือ 1.การสืบหาข่าวเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ทั้งภัยคุกคาม อาชญากรรม วินาศกรรม ร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ และหาแนวทางป้องกัน 2.การเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว การตั้งจุดตรวจสัมพันธ์ที่มีถึง 11 จุดทั่วเกาะภูเก็ต การส่งสายตรวจเข้าพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมใหญ่ๆ หรือพื้นที่ที่เข้าถึงยาก 3.มาตรการด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบผ่านทางสื่อต่างๆ และอาสาสมัครแต่ละชาติ และ 4.มาตรการเชิงรุกพร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว เช่น การติดตั้ง CCTV การจัดทำรายชื่อบุคลล และวัตถุต้องสงสัย จากมาตรการทั้งหมดเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะได้รับความปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต และป้องปรามไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของคดีลอบวางระเบิดว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางมาตรการเข้มในการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก จากการข่าวระบุชัดว่า ขณะนี้ภูเก็ตเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดได้ออกจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไปแล้ว และทางตำรวจได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาในการสังเกตบุคลล และวัตถุต้องสงสัยในจุดที่มีนักท่องเที่ยว และคนมารวมกันเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกงสุล และกงสุลกิตติมศักดิ์ 15 ประเทศ ที่เข้าร่วมประชุมได้เสนอแนะถึงการประสานด้านข้อมูลข่าวสารหากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยได้ยกตัวอย่างกรณีที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า ทางสถานกงสุลต่างๆ ไม่สามารถที่ตรวจสอบข้อมูลที่เท็จจริงได้ และกรณีหลังเกิดเหตุการณ์แล้วอยากจะให้ทางหน่วยงานของราชการส่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นการยืนยันความปลอดภัยหากเดินทางมาภูเก็ตด้วย รวมไปถึงเรื่องการเช่ารถจักรยานยนต์ที่อยากจะให้มีมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดด้วย

ด้าน พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. (ตท.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ทาง ผบ.ตร.เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงได้มอบหมายให้ตนมาประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งหมด ทั้งหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน รวมไปถึงกงสุลประเทศต่างๆ ซึ่งจากการประชุมร่วมกันในวันนี้ทำให้ทราบว่า ทางกงสุลทั้ง 15 ประเทศที่อยู่ในภูเก็ต ยังมีความเชื่อมั่นถึงการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต เพราะจากรายงานของ ททท.และผู้ประกอบการทราบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าภูเก็ตไม่ได้ลดลงแต่อย่างใดหลังเกิดเหตุระเบิด และมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอยู่ในมาตรฐานสากลเป็นที่พอใจ แต่จะต้องปรับปรุงบ้างในส่วนของการสื่อสารเพื่ออัปเดตข้อมูลให้ทราบ ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

ด้าน นายสถิรพงศ์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต หลังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และพื้นที่อื่นๆ อีกหลายจังหวัด ว่า หลังเกิดเหตุใหม่ๆ มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเล็กน้อย มีการยกเลิกการจองห้องพักบ้าง แต่หลังจากเกิดเหตุไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ การยกเลิกห้องพักก็หยุดไป นักท่องเที่ยวออกมาท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการป้องกันและการสร้างความเข้าใจให้แก่นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันดูแลความปลอดภัย จะต้องมีการอบรมคนในปกครองให้หัดสังเกตสิ่งผิดปกติ การปฏิบัติตนเมื่อพบสิ่งของต้องสงสัย เพราะปัจจุบันนี้จะรอให้เจ้าหน้าที่ทำอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้ ทุกคนจะต้องช่วยกันมาทำงาน และร่วมกันดูแลบ้านเมืองของตัวเองด้วย

“การท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นสิ่งที่จะต้องเฝ้าระวัง และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบ การที่ทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมแรงกันในการปกป้องการท่องเที่ยวของจังหวัดก็จะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่เราจะต้องสามัคคีกันเท่านั้น และจะต้องร่วมด้วยช่วยกันดูแลการท่องเที่ยวของประเทศไทยทั้งหมด”

นายสถิรพงศ์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงสถานการณ์ท่องเที่ยว ว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่อัตราการเข้าพักยังอยู่ที่ 70-80% กลุ่มนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ก็ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีน รองลงมาคือ รัสเซีย ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ตลาดรัสเซียเริ่มกลับมา โดยในปีนี้มีการเพิ่มสายการบินบินตรงจากรัสเซียมาหลายสายการบินด้วยกัน ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตคึกคักมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ น.ส.สุพัตรา จารุอริยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวที่หาดป่าตอง หลังเกิดเหตุระเบิดยังปกติ ไม่มีการยกเลิกการจองห้องพักแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาท่องเที่ยวตามปกติ ยอดจองไม่ได้ลดลง อัตราเข้าพักในขณะนี้อยู่ที่ร้อยละกว่า 80 โดยกลุ่มหลักๆ ยังเป็นจีน ออสเตรเลีย เกาหลี รัสเซีย และยุโรป เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรมนั้นยินดีที่จะให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ของราชการในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ มีการติดตั้งกล้อง CCTV รอบบริเวณโรงแรมเพื่อช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าตำรวจต่อไป