กระบี่ - ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวหาดอ่าวนาง หลังเกิดเหตุรุนแรงในหลายจังหวัดภาคใต้ตอนบน ด้านประธาน สทท.ยอมรับนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางแต่เพียงส่วนน้อย เชื่อไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวไฮซีซันที่จะมาถึงในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้
เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (15 ส.ค.) ที่บริเวณลานประติมากรรมปลาใบ ชายหาดอ่าวนาง ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 (ผบก. ตม.6) ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พร้อมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ สถานีตำรวจภูธรอ่าวนาง และอาสาสมัครตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกระบี่ จำนวนกว่า 30 นาย โดยมี พ.ต.อ. ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.กระบี่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ออกไปประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หลังเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 11-12 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวล และมีความเชื่อมั่นในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และคอยให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ท่ามกลางบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวบริเวณชายหาดจำนวนมาก บรรยากาศคึกคัก
ขณะที่ นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางเพลิง และวางระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน รวมทั้งเหตุเพลิงไหม้ร้านเสื้อผ้า และของที่ระลึกในย่านหาดอ่าวนาง เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ผ่านมา ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ยอมรับว่านักท่องเที่ยวอาจจะมีความวิตกกังวลอยู่บ้าง ในช่วงสั้นๆ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีความอ่อนไหวเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
ทั้งนี้ จากการสอบถามตามโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่เกิดเหตุก็มีการยกเลิกการเดินทางบ้างแต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนในพื้นที่อื่นๆ เช่น เกาะพีพี เกาะลันตา ไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด ทั้งนี้ จากการที่ได้ลงพื้นที่หาดอ่าวนาง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุพบว่า นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาท่องเที่ยวกันตามปกติ บรรยากาศก็ยังคึกคักเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการดูแลความปลอดภัยก็จะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ให้กลับคืนมาโดยเร็ว ทั้งในภาพรวมนั้นหลังเกิดเหตุ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และอาสาสมัครก็ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี มีความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่เช่นกัน คอยเฝ้าระวังสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เชื่อว่าสถานการณ์หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ และไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันที่จะมาถึงในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้