ปัตตานี - จนท.เชื่อฝีมือ “อับดุลฮาดี” แกนนำระดับสั่งการวางระเบิดชุด รปภ.ครูที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มาแล้ว 2 ครั้งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้รถหุ้มเกราะของหน่วยลาดตระเวนเส้นทางพังหมดโรงพัก
จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดชุดตำรวจคุ้มครองครู สภ.ราตาปันยัง จำนวน 8 นาย ขณะใช้รถยนต์กระบะหุ้มเกราะออกลาดตระเวนเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยครู ก่อนที่ครูจะเดินทางไปโรงเรียน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งสาเหตุมาจากใช้รถยนต์กระบะหุ้มเกราะออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวน โดยเหตุเกิดบนถนนภายในหมู่บ้านป่าศรี ม.5 ต.ตะโล๊ะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (11 ส.ค.) ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ได้สนธิกำลังร่วมกันออกติดตามหาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยจากการสืบสวนสอบสวนพยานหลักฐานพบว่า เป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่เมื่อ 2 เดือนก่อน และจากข้อมูลในการขยายผลเป็นระเบิดที่ผลิตมาจากกลุ่มเดียวกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอ ว่าตรงกับกลุ่มคนร้ายที่เคยก่อเหตุใดบ้าง และเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่ม นายอับดุลฮาดี แกนนำระดับสั่งการ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ รับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ดังกล่าว และใกล้เคียง
โดยก่อนเกิดเหตุได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าจากหน่วยข่าวความมั่นคงแล้วว่า นายอับดุลฮาดี และแนวร่วมมีการเคลื่อนไหวในพื้นที่เพื่อลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ ซึ่งเน้นชุดคุ้มครองครู จึงได้มีการปรับแผนการปฏิบัติงานในแต่ละวัน แต่จากสภาพพื้นที่มีเส้นทางหลักเข้าออกเพียงเส้นทางเดียว จึงยากต่อการป้องกัน และดูแลตรวจสอบพื้นที่ให้มีความปลอดภัย จนมาเกิดเหตุการณ์ขึ้นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคุ้มรองครู สภ.ราตาปันยัง ได้ถูกลอบวางระเบิดมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย เนื่องจากใช้รถยนต์หุ้มเกราะในการปฏิบัติหน้าที่ แต่จากการถูกลอบก่อเหตุ และได้สร้างความเสียหายให้แก่รถยนต์หุ้มเกราะ ซึ่งที่หน่วยมีเพียง 2 คัน เสียหายจนหมด จึงส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่จากนี้ไปทางฝ่ายผู้ปฏิบัติเกรงจะมีความเสี่ยงมากขึ้น และเตรียมเสนอขอสนับสนุนรถยนต์หุ้มเกราะไปยังผู้บังคับบัญชา ให้เร่งหามาตรการ หรือจัดส่งรถหุ้มเกราะเสริมการปฏิบัติงาน จนกว่ารถยนต์หุ้มเกราะทั้ง 2 คัน ที่มีอยู่นั้นจะซ่อมแซมจนแล้วเสร็จ