นครศรีธรรมราช - รอง ผบ.ตร.เข้าเร่งขยายผลยึดทรัพย์ “เสี่ยยศ” นายทุนค้าน้ำมันเถื่อนชื่อดัง เบื้องหลังค้ามนุษย์เวียดนาม-ไทย ระบุอาจเข้าข่ายอาชญากรข้ามชาติ ขณะที่เรือเวียดนามอำพรางติดธงชาติ แฝงชื่อเป็นเรือไทยเข้าทำประมงในน่านน้ำไทย
วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าตรวจสอบเรือประมงคราดปลิงทะเลขนาดใหญ่ จำนวน 3 ลำ ที่ตำรวจน้ำปากพนัง เข้าจับกุมได้เมื่อเดือนที่ผ่านมาเป็นของกลาง ซึ่งพบว่าเป็นเรือเวียดนามที่ถูกทาสีอำพรางใช้ชื่อเป็นเรือไทย และติดธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และกองเรือประมงไทย ในการจับกุมเรือทั้ง 3 ลำ พบว่า มีแรงงานชาวเวียดนามเป็นขบวนการค้ามนุษย์ โดยมีเหยื่อที่ถูกนำมาใช้แรงงานเป็นชาวไทย 11 ราย ชาวเวียดนาม 9 ราย และพม่า 1 ราย ส่วนไต้ก๋งทั้ง 3 ลำ เป็นชาวเวียดนาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.ปราบปรามการค้ามนุษย์
อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนพบว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการล่อลวงแรงงานชาวไทยลงไปทำประมงในเรือเวียดนามนามทั้ง 3 ลำ เป็นนายทุนชาวไทยที่รู้จักในนาม “เสี่ยยศ” ซึ่งมีธุรกิจเรือประมงในจังหวัดสงขลา และเป็นนายทุนลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนในอ่าวไทย เชื่อมโยงกับนายทุนผู้ค้าปลิงทะเล ในเวียดนามซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟู โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายหน้าที่เป็นลูกน้องของเสี่ยยศแล้ว 2 ราย คือ นายสุรศักดิ์ แก้ววิมล และนายสามิตร บุญส่ง ซึ่งเป็นผู้จัดหาล่อลวงแรงงานไทยแล้วนำไปส่งให้ลงเรือเวียดนามในอ่าวไทยบริเวณเกาะกระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเรือทั้ง 3 ลำ
พล.ต.อ.ศรีรวราห์ รังสิพราหมณ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ได้เร่งให้พนักงานสอบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์ โดยเฉพาะเครือข่ายเรือของเสี่ยยศ อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการสืบสวนสอบสวนหากสาวโยงไปถึงผู้ใดต้องดำเนินการเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ การขยับจากเทียร์ 2 ไปสู่เทียร์ 1 นั้นต้องร่วมกันหลายฝ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการเต็มร้อยเจอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามจับกุมทุกกรณี และในภาพรวมนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่กระทำความผิดซึ่งอาจจะเข้าข่ายเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ