นครศรีธรรมราช - ผู้นำท้องที่ในตำบลเขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความดำเนินต่อแกนนำเครือข่ายฝายมีชีวิตแห่งประเทศไทย ขณะที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช น.ส.ประภาพร ปิยะพิสุทธิศักดิ์ เลขาธิการเครือข่ายฝายมีชีวิตแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.ดำรง โยธารักษ์ และนายสวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.เทวกฤต ดิษฐรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมาให้ปากคำกรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันเททิ้งหรือร่วมทำด้วยประการใดๆ ให้หิน กรวด ทราย ดินโคลน หรือสิ่งปฏิกูลใดๆ ลงในแม่น้ำลำคลอง บึง อันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือประชาชนได้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ได้รับอนุญาต
สืบเนื่องมาจากกลุ่มเครือข่ายฝายมีชีวิตแห่งประเทศไทย ได้ไปทำการสร้างฝายมีชีวิตที่ท่าน้ำสี่กัก คลองเขาแก้ว บริเวณ ม.1 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช แต่ถูกผู้นำท้องถิ่นเข้าแจ้งความในข้อหาดังกล่าว กระทั่งทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้สมาชิกเครือข่ายฯ มาชี้แจง และรับทราบข้อกล่าวหา จึงรวมตัวกันเดินทางมาที่ สภ.ลานสกา เพื่อให้ข้อเท็จจริงตามที่ถูกเรียกร้อง ซึ่งการสร้างฝายมีชีวิตนั้นมีการก่อสร้างร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งกำลังทหาร ชาวบ้านในพื้นที่ และเครือข่ายฝ่ายมีชีวิตแห่งประเทศไทย ก่อนก่อสร้างทุกครั้งจะมีการทำความเข้าใจต่อชาวบ้านอย่างละเอียดถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการสร้างฝายมีชีวิตอย่างมากมายมหาศาล
น.ส.ประภาพร ปิยะพิสุทธิศักดิ์ เลขาธิการเครือข่ายฝายมีชีวิตแห่งประเทศไทย ระบุว่า การทำฝายมีชีวิตที่ใดก็แล้วแต่เครือข่ายไม่เคยได้ผลประโยชน์เข้าตัวเอง แต่จะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในชุมชนในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะก่อให้เกิดการฟื้นฟูระบบนิเวศ ลดภาวะโลกร้อน สามารถเป็นเครื่องมือการแก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน และยังสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมในช่วงหน้าฝน ขณะนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝายมีชีวิตรวม 150 แห่ง แต่เมื่อผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างฝายมีชีวิต และเข้าแจ้งความ เครือข่ายฯ จึงมาชี้แจงทำความเข้าใจอย่างละเอียด เพราะบางคนไม่เข้าใจเรื่องฝ่ายมีชีวิตว่ามีประโยชน์มากมายมหาศาลต่อชุมชนเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้ชาวบ้าน
