ตรัง - แม่ของ ด.ญ.วัย 8 ขวบชาวตรังพร้อมทนาย โชว์หนังสือจากตำรวจระบุมีผู้ร่วมกระทำการข่มขืนอีก 1 คน แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โอดไม่เคยได้รับความร่วมมือด้านคดี หลักฐานไม่ชัด เผยตั้งข้อสังเกตมีเงื่อนงำอำพรางทางคดีหรือไม่
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.ตรัง ได้มีการสรุปสำนวนคดีส่งฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ทองย้อย อายุ 33 ปี ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กหญิงนั้นไม่ยินยอม ซึ่งกระทำต่อผู้สืบสันดาน เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายฯ” ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ตกเป็นเหยื่อ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พ.ค.59 ที่ผ่านมา
วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ศลิษา ฤทธิ์เดช ผู้เป็นแม่ของหนูน้อยเคราะห์ร้าย พร้อมด้วย นายยุทธศาสตร์ โทรัตน์ ทนายความ ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดตรัง เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี
โดย นายยุทธศาสตร์ โทรัตน์ ทนายความ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.59 ที่ผ่านมา ตนได้รับหนังสือจาก พ.ต.ต.ชาญณรงค์ กลอนสม สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรหนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ชี้แจงถึงความคืบหน้าการสอบสวนของคดีดังกล่าว โดยในหนังสือระบุ 2 ข้อ ประกอบด้วย 1.ผลการดำเนินการ คณะพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แล้วมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 2 ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ และ 2.สิ่งที่จะดำเนินการต่อไป จะได้ดำเนินการขอศาลเยาวชนฯ ออกหมายจับผู้ต้องหาต่อไป
นายยุทธศาสตร์ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ลูกความตนได้รับหนังสือจนถึงขณะนี้ เวลาผ่านมากว่า 1 เดือน ปรากฏว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับข้อชี้แจงที่ 2 ดังนั้น จึงหมายความว่า ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 1 คน ที่ยังรอออกหมายจับใช่หรือไม่ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย จำนวน 7 คน ซึ่งมี 1 ในนั้นเป็นเยาวชนฯ และตรงกับคำให้การของพยานว่า เป็นผู้ร่วมลงมือข่มขืน ด.ญ.เอ
และทุกครั้งที่ตนในฐานะทนายความจำเลย ในคดีทวงถาม หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคดี กลับไม่เคยได้รับความร่วมมือ หรือทราบถึงความคืบหน้าใดๆ แม้แต่น้อย หากคดีนี้ลูกความตนคือ นายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ทองย้อย เป็นผู้กระทำความผิดจริง ตนจะให้เขายอมรับสารภาพรับผิด แต่ที่ผ่านมา ทางครอบครัวผู้เสียหาย และจำเลยไม่เคยได้รับหลักฐานที่ชัดเจนที่ระบุว่า เป็นผู้กระทำความผิดเลย ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้น่าจะมีเงื่อนงำบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งตนเตรียมจะทำหนังสือเพื่อสอบถามอัยการให้ทวงถามไปถึงพนักงานสอบสวนว่า ขณะนี้ดำเนินการฯ ตามข้อ 2 ที่มีการแจ้งมายังจำเลยแล้วอย่างไรบ้าง และมีความคืบหน้าหรือไม่