กระบี่ - ญาติเด็กทารกถูกแม่ใจร้ายคลอดลูกทิ้งโถส้วมในปั๊มน้ำมัน จ.กระบี่ รับอุปการะเลี้ยงดูแล้ว ขณะที่แม่ของเด็กเจ้าหน้าที่รวบได้ขณะกำลังนั่งรถเพื่อกลับบ้านที่สงขลา
จากกรณี นายณพรวิศิษฏ์ ผลเงาะ นายกเทศมนตรีตำบลคลองพนพัฒนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมด้วย นายสัมพันธ์ หญ้าปรัง รองนายกฯ ได้เข้าช่วยเหลือทารกเพศหญิงเพิ่งคลอดถูกทิ้งอยู่ภายในโถส้วม ภายในปั๊มน้ำมันซัสโก้คลองแรด หมู่ที่ 7 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ในสภาพหัวมุดอยู่ภายในโถส้วม นอนขดตัวกลม แต่โชคดีที่น้ำในโถส้วมไม่ได้ท่วมที่ใบหน้า จึงไม่ได้รับอันตราย และได้ช่วยเหลือไว้พร้อมแจ้ง รพ.คลองท่อม มารับเด็กไปตรวจรักษา ซึ่งล่าสุดนี้อาการปลอดภัย เด็กมีน้ำหนัก 2,000 กรัม นอกจากนี้ ยังได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม ขอให้ติดตามแม่ใจร้ายมาดำเนินคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (26 ก.ค.) นายกิตติ อินทรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัด และตรวจสอบบริเวณถนนสายตรัง-นาโยง จ.ตรัง ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยง สามมารถจับกุมแม่ใจร้ายรายนี้ได้ในสภาพสวมเสื้อผ้าเปื้อนเลือด รวมทั้งมีหน้าตาซีดเซียว ท่าทางอิดโรย ซึ่งคาดว่าเสียเลือดมาก จึงควบคุมตัวไว้ และนำตัวไปสอบสวนจนในที่สุดก็ยอมรับสารภาพว่า ได้คลอดลูกทิ้งไว้ในห้องน้ำดังกล่าวจริง โดยเจ็บท้องคลอดลูกขณะโดยสารรถประจำทางสายภูเก็ต-หาดใหญ่ กลับบ้านที่ จ.สงขลา
นายกิตติ กล่าวด้วยว่า สำหรับแม่เด็กทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยง ได้นำตัวไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลนาโยง โดยจากการสอบสวนทราบว่า แม่ใจร้ายรายนี้ ชื่อ น.ส.วรรณ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สงขลา กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งของ จ.ภูเก็ต และคาดว่าน่าจะเดินทางกลับบ้าน แต่ระหว่างทางเกิดอาการปวดท้องคลอด จึงขอให้พนักงานขับรถจอดเพื่อเข้าห้องน้ำ และคลอดทารกทิ้งไว้ก่อนจะขึ้นรถโดยสารเดินทางต่อไปเพื่อกลับบ้าน และมาถูกจับกุมได้ในที่สุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาทอดทิ้งเด็ก
นายกิตติ กล่าวด้วยว่า สำหรับเด็กขณะนี้อยู่ในความดูแลของของโรงพยาบาลคลองท่อม อาการปลอดภัย และสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี โดยมีญาติของแม่เด็กเข้ามารับเป็นผู้อุปการะดูแลเด็ก ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะเข้าไปสอบถามผู้เป็นแม่ของเด็กว่าสาเหตุอะไรจึงได้คลอดลูกทิ้ง ใครเป็นพ่อ และพร้อมที่จะรับเป็นบุตรหรือไม่ หากผู้เป็นพ่อไม่ยอมรับ ก็จะให้แม่เด็กเป็นผู้อุปการะเพียงคนเดียว ในอนาคตจะได้ไม่เป็นปัญหาแก่ตัวเด็กเอง ซึ่ง พม.จ.กระบี่ พร้อมให้การช่วยเหลือต่อไป
จากกรณี นายณพรวิศิษฏ์ ผลเงาะ นายกเทศมนตรีตำบลคลองพนพัฒนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมด้วย นายสัมพันธ์ หญ้าปรัง รองนายกฯ ได้เข้าช่วยเหลือทารกเพศหญิงเพิ่งคลอดถูกทิ้งอยู่ภายในโถส้วม ภายในปั๊มน้ำมันซัสโก้คลองแรด หมู่ที่ 7 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ในสภาพหัวมุดอยู่ภายในโถส้วม นอนขดตัวกลม แต่โชคดีที่น้ำในโถส้วมไม่ได้ท่วมที่ใบหน้า จึงไม่ได้รับอันตราย และได้ช่วยเหลือไว้พร้อมแจ้ง รพ.คลองท่อม มารับเด็กไปตรวจรักษา ซึ่งล่าสุดนี้อาการปลอดภัย เด็กมีน้ำหนัก 2,000 กรัม นอกจากนี้ ยังได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม ขอให้ติดตามแม่ใจร้ายมาดำเนินคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (26 ก.ค.) นายกิตติ อินทรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัด และตรวจสอบบริเวณถนนสายตรัง-นาโยง จ.ตรัง ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยง สามมารถจับกุมแม่ใจร้ายรายนี้ได้ในสภาพสวมเสื้อผ้าเปื้อนเลือด รวมทั้งมีหน้าตาซีดเซียว ท่าทางอิดโรย ซึ่งคาดว่าเสียเลือดมาก จึงควบคุมตัวไว้ และนำตัวไปสอบสวนจนในที่สุดก็ยอมรับสารภาพว่า ได้คลอดลูกทิ้งไว้ในห้องน้ำดังกล่าวจริง โดยเจ็บท้องคลอดลูกขณะโดยสารรถประจำทางสายภูเก็ต-หาดใหญ่ กลับบ้านที่ จ.สงขลา
นายกิตติ กล่าวด้วยว่า สำหรับแม่เด็กทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยง ได้นำตัวไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลนาโยง โดยจากการสอบสวนทราบว่า แม่ใจร้ายรายนี้ ชื่อ น.ส.วรรณ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สงขลา กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งของ จ.ภูเก็ต และคาดว่าน่าจะเดินทางกลับบ้าน แต่ระหว่างทางเกิดอาการปวดท้องคลอด จึงขอให้พนักงานขับรถจอดเพื่อเข้าห้องน้ำ และคลอดทารกทิ้งไว้ก่อนจะขึ้นรถโดยสารเดินทางต่อไปเพื่อกลับบ้าน และมาถูกจับกุมได้ในที่สุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาทอดทิ้งเด็ก
นายกิตติ กล่าวด้วยว่า สำหรับเด็กขณะนี้อยู่ในความดูแลของของโรงพยาบาลคลองท่อม อาการปลอดภัย และสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี โดยมีญาติของแม่เด็กเข้ามารับเป็นผู้อุปการะดูแลเด็ก ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะเข้าไปสอบถามผู้เป็นแม่ของเด็กว่าสาเหตุอะไรจึงได้คลอดลูกทิ้ง ใครเป็นพ่อ และพร้อมที่จะรับเป็นบุตรหรือไม่ หากผู้เป็นพ่อไม่ยอมรับ ก็จะให้แม่เด็กเป็นผู้อุปการะเพียงคนเดียว ในอนาคตจะได้ไม่เป็นปัญหาแก่ตัวเด็กเอง ซึ่ง พม.จ.กระบี่ พร้อมให้การช่วยเหลือต่อไป