ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ภาณุ อุทัยรัตน์” ออกโรงยัน ศอ.บต.เดินหน้าแก้ 2 ปัญหาที่กระทบความมั่นคง ชี้กรณีความขัดแย้งงบบูรณะปรับปรุงมัสยิด 300 ปี ทั้ง กก.อิสลามประจำ จ.นราฯ และชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะ ตกลงร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบ ขณะที่กรณีปอเนาะสะปอม ถูกศาลแพ่งตัดสินยึดที่ดินวากัฟ ด้านผู้บริหารโรงเรียนพร้อมร่วมมือยื่นอุทธรณ์ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยถึงกรณีชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส คัดค้านโครงการบูรณะปรับปรุงแหล่งเรียนตะโละมาเนาะ หรือมัสยิด 300 ปี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะว่า ตามที่ได้มีข่าวสะพัดว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่าง ศอ.บต.กับชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะนั้น
นายภาณุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ศอ.บต.และชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะ มีความเห็นต่างเกิดขึ้นจริง เนื่องจากทางชมรมต้องการที่เป็นผู้รับผิดชอบเงินงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งทาง ศอ.บต.ก็อยากให้ทางคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส และชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะ รับไปดำเนินการตามความต้องการ แต่ที่ติดขัดที่มีระเบียบของกรมบัญชีกลางในการใช้จ่ายงบอุดหนุนเฉพาะกิจ ซึ่ง ศอ.บต.ไม่สามารถโอนให้หน่วยอื่นดำเนินการได้
“ทาง ศอ.บต.เองต้องดำเนินการตามระเบียบ โดยได้ทำการชี้แจงให้คณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส และชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะ ได้รับทราบแล้วหลายครั้ง ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจกันดี และทั้ง 2 องค์กรทางศาสนาก็พร้อมที่จะร่วมมือกับ ศอ.บต.ในการดำเนินการ แต่ก็ยังมีคนบางคนในชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะ ที่ยังเห็นต่าง”
นายภาณุ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปัญหาความขัดแย้งได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อย โดยทางคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส ชมรมอิหม่าม อ.บาเจาะ และตัวแทนภาคประชาชนจะเข้าร่วมเป็นกรรมการในโครงการนี้ เพื่อร่วมกันตรวจสอบไม่ให้งบประมาณรั่วไหล ทำให้เกิดคงความโปร่งใส และไม่ให้ใครเข้าไปแสดงหาผลประโยชน์ เนื่องจากเป็นโครงการเพื่อการศาสนา ตนเชื่อว่าไม่มีใครกล้าที่จะทำในสิ่งที่ผิดบาปอย่างแน่นอน
ส่วนในเรื่องของโรงเรียนบูรพาอิสลาม หรือปอเนาะสะปอม อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่สำนักงาน ปปง.ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในข้อหาเป็นแหล่งก่อการร้าย และศาลแพ่งได้พิพากษายึดที่ดินที่ตั้งโรงเรียนไปแล้วนั้น แต่ปรากฏว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินวากัฟตามหลักศาสนา โดยหลังการตัดสิน ศอ.บต.ได้ร่วมกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ดำเนินการสร้างความเข้าใจต่อผู้บริหารโรงเรียน และประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วนไปแล้วเช่นกัน
“ผู้บริหารโรงเรียนมีความเข้าใจ และให้ความร่วมมือกับ ศอ.บต.เป็นอย่างดี โดยจะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งผู้บริหารโรงเรียนได้ขอบคุณที่ ศอ.บต.ได้ใส่ใจช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด” นายภาณุ กล่าวและว่า
โดยในส่วนของโรงเรียนบูรพาอิสลามยังเปิดให้มีการเรียนการสอนเป็นปกติ ตอนนี้ยังไม่มีการปิดโรงเรียนแต่อย่างใด ส่วนการต่อสู้คดีก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน ศอ.บต.ได้ชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้ทราบแล้ว เชื่อว่าในกรณีของโรงเรียนปอเนาะสะปอม ที่ จ.นราธิวาส จะไม่มีปัญหาอย่างปอเนาะญีฮาดที่ จ.ปัตตานี โดยผู้ไม่หวังดีจะไม่สามารถนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเป็นประเด็นบิดเบือนเพื่อปลุกระดมให้ประชาชนเข้าใจผิดได้อย่างแน่นอน
