ยะลา - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีที่ได้มีการแชร์คลิปความเป็นอยู่ของทหารพรานที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันที่ฝนตก เป็นการถ่ายเพื่อส่งให้เพื่อนในกลุ่ม เพื่อให้ทราบถึงการทำงานด้วยความภาคภูมิใจและเสียสละเพื่อชาติ ถึงแม้จะเจอกับสภาพอากาศที่เลวร้าย
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องแถลงข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงกรณีที่ได้มีการแชร์คลิปภาพความเป็นอยู่ของเหล่าทหารพรานที่ประจำการอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ฝนตกว่า มีความยากลำบากในการปฏิบัติงานซึ่งได้มีการแชร์คลิปภาพดังกล่าวไปทั่วสังคมโซเชียลจนเป็นที่เห็นอกเห็นใจของประชาชนที่ได้รับชมคลิปดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง
พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า คลิปภาพดังกล่าวเป็นการลงพื้นที่การปฏิบัติงานจรยุทธ์บนป่าเขาของเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่ ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา จากคลิปภาพที่ทุกท่านได้ชมนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ที่นำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่มีเจตนารมณ์ที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าทหารกล้า ถึงแม้ว่าการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีปัญหาอุปสรรคเพียงใด แต่เหล่าทหารกล้าทุกนายก็มีความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานในพื้นที่นี้
“สำหรับการปฏิบัติงานของหน่วยทหารพรานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่เป็นการปฏิบัติงานลักษณะเป็นการลาดตระเวนจรยุทธ์ในพื้นที่เป้าหมาย เป็นห้วงระยะเวลา 3 วัน 5 วัน หรือ 7 วัน แล้วแต่ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งจากภาพที่ปรากฏในคลิปจะเห็นได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ฝนตก เจ้าหน้าที่จึงต้องหยุดพักเพื่อรอให้ฝนทิ้งช่วงจึงจะได้ทำการลาดตระเวนจรยุทธ์ไปตามพื้นที่เป้าหมายต่อไป และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการลาดตระเวนจรยุทธ์แล้ว เจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติภารกิจทุกนายก็จะกลับฐานที่ตั้ง ซึ่งก็จะได้รับการดูแลจากผู้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี” พ.อ.ยุทธนาม กล่าว
พ.อ.รักษ์ศักดิ์ เบญจวรรณ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 กล่าวว่า เหตุการณ์ภายในคลิปที่มีการส่งต่อกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2559 ที่ผ่านมา โดย ส.อ.วิทูลย์ ภูสุวรรณ ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการให้ปฏิบัติภารกิจนำกำลังพล จำนวน 9 นาย ออกลาดตระเวนจรยุทธ์ห้วงตั้งแต่วันที่ 17-20 ก.ค.2559 เพื่อป้องกันการก่อเหตุ และรักษาความปลอดภัยเส้นทางในพื้นที่รอยต่อบ้านปรามะ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา กับบ้านบูเก๊ะจือฆา ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา และเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2559 เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ ส.อ.วิทูลย์ ได้มีการบันทึกคลิป และเป็นห้วงเวลาที่มีฝนตกหนัก จึงมีการสั่งการให้กำลังพลจัดตั้งฐานลาดตระเวนบริเวณบ้านปรามะ และจัดกำลังเป็นชุดระวังป้องกันเหตุออกไปนอกฐานลาดตระเวนเพื่อระวังป้องกันให้กับกำลังพลส่วนใหญ่ขณะปฏิบัติงานอื่นๆ เมื่อกำลังพลชุดนี้จบภารกิจเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2559 ที่ผ่านมา ก็ได้กลับเข้าฐานปฏิบัติการระดับกองร้อยของหน่วยเรียบร้อยแล้ว
“ลักษณะการปฏิบัติงานของหน่วยทหารพราน จะจัดกำลังเป็นชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก มีการจัดกำลังพล จำนวน 9-12 นาย ปฏิบัติการจรยุทธ์ห้วงเวลา 3-5 วัน ในพื้นที่ปฏิบัติการที่หน่วยรับผิดชอบ และจะมีการตั้งฐานลาดตระเวนในลักษณะที่พักชั่วคราว และมีการเปลี่ยนที่ตั้งตลอดห้วงการปฏิบัติงาน สำหรับสภาพพื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกชุก พื้นดินมีความชื้นสูง และมีสัตว์เลื่อยคลานมีพิษ ดังนั้น ลักษณะที่พักชั่วคราวของชุดลาดตระเวนจรยุทธ์ จึงเป็นการผูกเปลตามต้นไม้ให้สูงจากพื้นดิน มีการผูกผ้าใบป้องกันฝนตกตามที่เห็นในคลิป และเมื่อมีการหยุดหน่วยตั้งฐานลาดตระเวนก็จะมีการส่งชุดระวังป้องกันออกไปนอกฐานทุกครั้ง เพื่อระวังป้องกันให้แก่กำลังพลส่วนใหญ่ สำหรับสภาพความเป็นอยู่ในฐานปฏิบัติการระดับกองร้อย เมื่อชุดปฏิบัติการกลับจากการปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับมอบ จะมีที่พักกำลังพลที่รับประทานอาหาร ที่ออกกำลังกาย และที่ผักผ่อนตามสมควร และมีระบบป้องกันฐาน ซึ่งจะไม่เหมือนขณะออกปฏิบัติภารกิจ” พ.อ.รักษ์ศักดิ์ กล่าว
รอง ผบ.ฉก.ทพ. 41 ยังกล่าวอีกว่า ในขั้นต้นหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้ดำเนินการสอบถามกำลังพลดังกล่าว ทราบว่า เป็นความตั้งใจของกำลังพลที่บันทึกคลิปคือ ต้องการส่งให้เพื่อนในกลุ่มของตนเองเพื่อให้ทราบถึงการทำงานด้วยความภาคภูมิใจ และทำงานด้วยความเสียสละเพื่อชาติ ถึงแม้จะเจอกับสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งนี้ การลาดตระเวนจรยุทธ์เป็นการจำกัดเสรีในการปฏิบัติของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เพราะเป็นการเข้าถึงประชาชนอย่างดียิ่ง ถึงแม้จะแลกมาด้วยความเหนื่อยยากลำบากของกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติงาน แต่ทุกนายก็เต็มใจ และพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนต่อไป
พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม แม้การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีความเหน็ดเหนื่อย และเสี่ยงต่อภยันตรายก็ตาม แต่เหล่าทหารกล้าที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ก็มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความเสียสละ ไม่ย่อท้อต่อปัญหาอุปสรรค์ทั้งปวง ซึ่งพี่น้องประชาชนได้แสดงความชื่นชมการปฏิบัติงานของเหล่าทหารกล้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกนาย และขอให้กำลังพลทุกนายมีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ววัน