สุราษฎร์ธานี - พบผักชะครามในพื้นที่ป่าชายเลน อ.กาญจนดิษฐ์ ระบุมีเพียงแห่งเดียวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลวิจัยพบว่า มีสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพรป้องกัน และรักษาได้หลายโรค นอกจากนั้น ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งได้ดีอีกด้วย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนเตรียมดันเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ทำรายได้ให้ชุมชน
วันนี้ (21 กค.) ชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่บ้านท่าโพธิ์ ม.2 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ออกมาเก็บผักชะครามที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่บริเวณป่าชายเลนป่าท่าโพธิ์กว่า 5 พันไร่ หลังจากที่ทางสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี )ได้กวดขัน ทวงคืนผืนป่าจากที่นายทุนบุกรุกกลับคืนมาหลังจากการทำนากุ้ง ทำให้ระบบนิเวศในพื้นที่ล่มสลาย จากการปรับระบบนิเวศวิทยา ทำให้ป่าชายเลนกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้ขณะนี้มีผักชะครามที่เป็นผักหายาก และเคยจะสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ เกิดขึ้นจำนวนมากอีกครั้ง
นายวิชัย สมรูป ผอ.ส่วนส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า ป่าชายเลนป่าทุ่งโพธิ์ เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่ดีที่สุดของสุราษฎร์ธานี นอกจากผักชะครามแล้ว ยังมีพืชชนิดอื่นๆ ที่เคยสูญหายไปจากพื้นที่ได้กลับมาอีกครั้ง จากผลการวิจัยพบว่า ผักชะครามมีสรรพคุณตามตำรับยาไทย มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบขึ้นในที่เค็มจึงดูดเกลือไว้ในลำต้น ทำให้มีธาตุไอโอดีนสะสมอยู่ สามารถป้องกันโรคคอพอก
ต้นชะคราม ยังรักษารากผมแก้ผมร่วง รากของผักชะคราม มีสรรพคุณรับประทานเป็นยาบำรุงกระดูก แก้พิษฝีภายใน ดับพิษในกระดูก น้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน โรคผิวหนัง และเส้นเอ็นพิการ ลำต้น และใบของชะครามมีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งได้ดีอีกด้วย นอกจากนั้น ใบของชะคราม สามารถนำมาทำอาหารได้หลายเมนู ต้ม ยำ ทำแกง เช่น ยำผักชะคราม ผักลวกจิ้มราดกะทิกินคู่กับน้ำพริก ใบชะครามชุบไข่ทอดแทนชะอม ใบชะครามไปชุบแป้งทอดก็อร่อยเหมือนกัน
ด้าน นายยงยุทธ กุลทอง เกษตรอำเภอกาญจนดิษฐ์ กล่าวว่า ทางหน่วยงานเตรียมจับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ หวังให้ชุมชนมีรายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัว เนื่องจากเห็นว่าผักชะคราม มีประโยชน์ต่อทางร่างกาย เป็นผักปลอดสารพิษ และมีมากในพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการของผู้โภคที่ต้องการรักษาสุขภาพ พร้อมเตรียมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้คุณประโยชน์ของผักชะครามต่อไป
ส่วน นางเมตตา สุขสม ผู้ใหญ่บ้านได้เปิดเผยว่า ผักชะคราม ชาวบ้านจะเก็บไปขายยกกระสอบให้แก่พ่อค้าแม่ค้าคนกลางกระสอบละ 100 บาท สร้างรายได้เสริมหล่อเลี้ยงครอบครัวโดยที่แม่ค้านำไปแบ่งขายเป็นกำๆ ละ 20-30 บาท นอกจากนั้น ทางชุมชนได้มีการเก็บไปช่วยงานบุญต่างๆ โดยไม่มีคิดมูลค่า ส่วนการประกอบอาหารอาจจะนำไปเป็นผักลวกจิ้มน้ำพริก ทำไข่เจียวผักชะคราม หรือแกงส้มผักชะคราม ยำผักชะคราม เป็นต้น
วันนี้ (21 กค.) ชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่บ้านท่าโพธิ์ ม.2 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ออกมาเก็บผักชะครามที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่บริเวณป่าชายเลนป่าท่าโพธิ์กว่า 5 พันไร่ หลังจากที่ทางสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี )ได้กวดขัน ทวงคืนผืนป่าจากที่นายทุนบุกรุกกลับคืนมาหลังจากการทำนากุ้ง ทำให้ระบบนิเวศในพื้นที่ล่มสลาย จากการปรับระบบนิเวศวิทยา ทำให้ป่าชายเลนกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้ขณะนี้มีผักชะครามที่เป็นผักหายาก และเคยจะสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ เกิดขึ้นจำนวนมากอีกครั้ง
นายวิชัย สมรูป ผอ.ส่วนส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า ป่าชายเลนป่าทุ่งโพธิ์ เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่ดีที่สุดของสุราษฎร์ธานี นอกจากผักชะครามแล้ว ยังมีพืชชนิดอื่นๆ ที่เคยสูญหายไปจากพื้นที่ได้กลับมาอีกครั้ง จากผลการวิจัยพบว่า ผักชะครามมีสรรพคุณตามตำรับยาไทย มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบขึ้นในที่เค็มจึงดูดเกลือไว้ในลำต้น ทำให้มีธาตุไอโอดีนสะสมอยู่ สามารถป้องกันโรคคอพอก
ต้นชะคราม ยังรักษารากผมแก้ผมร่วง รากของผักชะคราม มีสรรพคุณรับประทานเป็นยาบำรุงกระดูก แก้พิษฝีภายใน ดับพิษในกระดูก น้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน โรคผิวหนัง และเส้นเอ็นพิการ ลำต้น และใบของชะครามมีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งได้ดีอีกด้วย นอกจากนั้น ใบของชะคราม สามารถนำมาทำอาหารได้หลายเมนู ต้ม ยำ ทำแกง เช่น ยำผักชะคราม ผักลวกจิ้มราดกะทิกินคู่กับน้ำพริก ใบชะครามชุบไข่ทอดแทนชะอม ใบชะครามไปชุบแป้งทอดก็อร่อยเหมือนกัน
ด้าน นายยงยุทธ กุลทอง เกษตรอำเภอกาญจนดิษฐ์ กล่าวว่า ทางหน่วยงานเตรียมจับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ หวังให้ชุมชนมีรายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัว เนื่องจากเห็นว่าผักชะคราม มีประโยชน์ต่อทางร่างกาย เป็นผักปลอดสารพิษ และมีมากในพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการของผู้โภคที่ต้องการรักษาสุขภาพ พร้อมเตรียมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้คุณประโยชน์ของผักชะครามต่อไป
ส่วน นางเมตตา สุขสม ผู้ใหญ่บ้านได้เปิดเผยว่า ผักชะคราม ชาวบ้านจะเก็บไปขายยกกระสอบให้แก่พ่อค้าแม่ค้าคนกลางกระสอบละ 100 บาท สร้างรายได้เสริมหล่อเลี้ยงครอบครัวโดยที่แม่ค้านำไปแบ่งขายเป็นกำๆ ละ 20-30 บาท นอกจากนั้น ทางชุมชนได้มีการเก็บไปช่วยงานบุญต่างๆ โดยไม่มีคิดมูลค่า ส่วนการประกอบอาหารอาจจะนำไปเป็นผักลวกจิ้มน้ำพริก ทำไข่เจียวผักชะคราม หรือแกงส้มผักชะคราม ยำผักชะคราม เป็นต้น
