นครศรีธรรมราช - อึ้งสุดเหี้ยมพบนักศึกษาสถาบันดังผู้ต้องหาฆ่าแฟนสาวสถาบันเดียวกันหลังก่อเหตุฆ่าฝังดินแล้วไปบันทึกคลิปวีดีโอตัวเองดรามาเรียกร้องให้แฟนสาวกลับมา และทำทีโพสต์ลง FB ให้ผู้พบเห็นแจ้งเบาะแส สังคมออนไลน์ถล่มยับ
วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ตำรวจได้คุมตัว นายทัตพงศ์ พรหมชัยศรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/2 ม.7 ต.กะแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษาปี 4 สถาบันแห่งหนึ่งเข้าชี้จุดเกิดเหตุ และจุดฝังศพ น.ส.พรธิดารัตน์ ศรีวิเชียร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.3 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษารุ่นพี่ที่ชอบพอ และได้นำศพไปฝังไว้ในป่าท้องที่ ม.7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และขุดศพขึ้นมาในสภาพจำเค้าเดิมไม่ได้ เนื่องจากถูกฝังไว้เป็นเวลากว่า 10 วัน หลังจากที่ นายทัตพงศ์ ได้ก่อเหตุฆ่า และฝังอำพรางไว้ในจุดดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบใน FB ของ นายทัตพงศ์ ผู้ต้องหาซึ่งใช้ชื่อว่า “คุณชายเอ็ม แดนเทวดา” พบว่า นายทัตพงศ์ ได้บันทึกคลิปตัวเอง และโพสต์เมื่อวันที่ 3 ก.ค.59 ซึ่งเป็นวันที่ นายทัตพงศ์ ก่อเหตุฆ่า น.ส.พรธิดารัตน์ หรือแพน หรือเพนกวิน แล้วฝังไว้ในหมู่ที่ 7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ โดย นายทัตพงศ์ ได้ระบุว่า “แพนไม่น่าทำแบบนี้เลย เรารักแพน ขอให้แพนกลับมานะ แพนทำให้เราทุกอย่าง เรารักแพน” ซึ่งเป็นคลิปที่ทำขึ้นกลังจากที่ นายทัตพงศ์ ได้ก่อเหตุและนำศพของ น.ส.พรธิดารัตน์ ฝังดินไปแล้ว
ขณะเดียวกัน อีกหลายวันถัดมา นายทัตพงศ์ ได้โพสต์อีกหลายข้อความทำนองประกาศหาเบาะแสของผู้ตายโดยโพสต์ภาพของผู้ตาย และทิ้งเบอร์โทรศัพท์หากใครพบเห็นให้แจ้งมาที่เบอร์โทรศัพท์ของ นายทัตพงศ์
สำหรับ น.ส.พรธิดารัตน์ ผู้ตายนั้นได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.59 ที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายในเขต ต.กะปาง อ.ทุ่งสง ซึ่ง นายสมพิศ ศรีวิเชียร อายุ 49 ปี และนางสภาณี ศรีวิเชียร อายุ 47 ปี พ่อกับแม่ได้ออกตามหาก่อนแจ้งความไว้ที่ สภ.กะปาง และ สภ.ทุ่งสง เพื่อช่วยตามหากว่า 10 วัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จนพบว่าสัญญาณโทรศัพท์ของผู้ตายได้หายไปในช่วงท้องที่หมู่ที่ 7 ตำบลกุแหระ อำเภอทุ่งใหญ่ ซึ่งพบว่าเป็นละแวกบ้านเดิมของ นายทัตพงศ์ จึงเข้าไปเชิญตัว นายทัตพงศ์ และพบว่า กำลังเสพน้ำต้มกระท่อมจึงจับกุมในข้อหาผลิตน้ำต้มพืชกระท่อม มาดำเนินคดี และมีการสอบสวนเค้นอย่างหนักจน นายทัตพงศ์ ยอมรับสารภาพ และพาเจ้าหน้าที่ไปนำชี้ที่เกิดเหตุ และให้เจ้าหน้าที่ขุดศพของ น.ส.พรธิดารัตน์ ขึ้นมา รวมทั้งทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปพร้อมกัน
ส่วนศพของ น.ส.พรธิดารัตน์ นั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ศูนย์นิติเวช จ.สุราษฎร์ธานี โดยขณะนี้มีข้อสงสัยว่า ในช่วงเวลาที่ถูกฝังนั้น น.ส.พรธิดารัตน์ ถูกฝังในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หลังจากนั้น จะเปิดโอกาสให้ครอบครัวของ น.ส.พรธิดารัตน์ รับศพไปบำเพ็ญกุศล ส่วน นายทัตพงศ์ ผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำสำนวนรวมทั้งขออำนาจศาลฝากขัง และคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะมีการหลบหนี